อนุทินลงพื้นที่สตูล ตรวจจุดน้ำท่วมซ้ำซาก ฟังเสียงชาวบ้าน–ผู้ประกอบการ พร้อมย้ำรัฐบาลไม่ทิ้งประชาชน เตรียมเร่งทำประชาพิจารณ์รื้อประตูน้ำ และจ่ายเยียวยาน้ำท่วม 9,000 บาททันที
เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 6 ธ.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ เดินทางขึ้นเฮลิคอปเตอร์จากหาดใหญ่ จ.สงขลา มายังค่ายสมันตรัฐบุรินทร์ จังหวัดสตูล ก่อนต่อด้วยรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน กง 3333 สตูล มุ่งสู่ตลาดสดเทศบาลเมืองสตูลและชุมชนชนาธิป เพื่อเยี่ยมเยียนประชาชนผู้ประสบอุทกภัย พร้อมมอบถุงยังชีพจำนวน 200 ชุด
นายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่สำรวจร้านค้าข้าวที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม พร้อมรับฟังปัญหาจากประชาชนและผู้ประกอบการเกี่ยวกับประตูระบายน้ำคลองมำบัง ซึ่งระบุว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำท่วมเข้าตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยนายกฯ กล่าวว่า หากประชาชนเห็นว่าไม่มีประโยชน์ ก็สามารถดำเนินการรื้อถอนหลังจากทำประชาพิจารณ์อย่างรอบคอบ
ระหว่างพบปะประชาชน นายอนุทินกล่าวว่า รัฐบาลตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชน และพร้อมดำเนินโครงการป้องกันน้ำท่วมอย่างจริงจัง เพื่อลดความเสียหายซ้ำซาก พร้อมประกาศให้ผู้ได้รับผลกระทบลงทะเบียนเพื่อรับเงินเยียวยาเบื้องต้น 9,000 บาท โดยจะมีมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมตามความเหมาะสม
นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้มอบถุงยังชีพแก่พ่อค้าแม่ค้าในตลาด เดินให้กำลังใจประชาชน และอุดหนุนขนมตุ๊บตั๊บเพื่อแจกสื่อมวลชนที่ร่วมติดตามลงพื้นที่ด้วย โดยย้ำว่ารัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งประชาชน และจะเร่งดำเนินการทุกมาตรการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากอุทกภัยอย่างเต็มที่
จากนั้นเวลา 15.15น. ที่โรงเรียนบ้านคลองขุด จ.สตูล นายอนุทิน พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่โรงเรียนบ้านคลองขุด ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล เพื่อมอบถุงยังชีพจำนวน 800 ชุด ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
โดยนายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้มึน เพราะว่าเป็นหวัด รับประทานยาแก้หวัดมา อาจจะจำชื่อตำบลผิดไปบ้าง แต่จำพี่น้องจังหวัดสตูลได้ทุกคน เพราะคนสตูลเป็นผู้ที่ตนถือว่ามีบุญคุณกับตนเกือบ 10 ปีแล้ว ที่เราได้รู้จักกันทั้ง นายพิบูลย์ รัชกิจประการ สส.สตูล เขต 1 พรรคภูมิใจไทย (สส.โกโต) นายวรศิษฎ์ เสียงประสิทธิ์ สส.สตูล เขต 2 พรรคภูมิใจไทย (สส.โกแพ )นำตนมาที่จังหวัดสตูลหาเสียง มาพบปะกับพี่น้องประชาชนที่จังหวัดสตูล เป็นครั้งแรกที่ตนได้มาที่จังหวัดนี้ ถ้าไม่ได้พบกับสส.โกโต และโกแพ ก็คงไม่ได้มาถึงสตูลสักที ตนและคณะได้ตรวจเยี่ยมพื้นที่ เนื่องจากทราบว่ามีเหตุการณ์น้ำท่วม และความเดือดร้อน กับประชาชน โชคดีที่สตูลระบายน้ำได้เร็วกว่าอ.หาดใหญ่ แต่ก็ได้เห็นถึงความเสียหายมากมาย เพราะระดับน้ำเข้ามาค่อนข้างมาก เราจะหาวิธีที่จะเร่งช่วยเหลือเยียวยาให้กับผู้ที่ประสบภัยให้เร็วที่สุด ทั้งเยียวยา ทั้งเงินที่นำมาให้ยืมเพื่อฟื้นฟูกิจการของตนเอง และเงินที่จะไปซ่อมแซมบ้านเรือน ทรัพย์สินสิ่งของต่างๆที่เกิดความเสียหายจากอุทกภัยครั้งนี้
นายกฯ กล่าวต่อว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตรวจเยี่ยมที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และหลังเที่ยงมาหาประชาชนที่จังหวัดสตูล ได้เห็นว่าความเสียหาย เพราะสตูลพื้นที่เล็กกว่า แต่ความเสียหายก็ถือว่าทุกครัวเรือนเช่นกัน ทางรัฐบาลเร่งที่จะนำความช่วยเหลือให้ประชาชน วันนี้ตนพาทีมงานมาด้วย ทีมงานเหล่านี้จะเป็นผู้ที่จะกลับไปช่วยคิดในการช่วยเหลือต่างๆและอนุมัติความช่วยเหลือต่าง ๆ มาถึงประชาชนเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นเพิ่มขึ้นไปอีก ตอนนี้ตนเป็นนายกฯ แล้ว เชื่อว่าตนมีความตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาในระยะยาวให้กับประชาชน วันนี้เป็นนายกฯ จะใช้ประสบการณ์จากที่เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง พยายามที่จะเข้าใจปัญหาของประชาชนปัญหาของจังหวัด และสนับสนุนทั้งโครงการต่าง ๆ การลงทุนเพื่อให้เกิดความสะดวกความปลอดภัยของประชาชนตนก็มีหน้าที่ทำให้มันเกิดขึ้นโดยเร็ว
นายกฯ กล่าวอีกว่า ถ้าจะถามว่าใช้เงินมากไหม ในการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำ ก็มีค่าเท่ากัน เพราะมันต้องใช้ เผลอๆใช้เงินน้อยกว่าที่ต้องเอาเงินมาเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ประชาชนได้คนละ 9,000 บาท แต่เมื่อเทียบกับความสูญเสียที่ได้เจอ ซึ่งตนเจอใครก็บอกเติม 0 อีก 2 ตัวก็ยังไม่คุ้ม ขอให้เชื่อมั่นว่าในพื้นที่จังหวัดสตูล มีสส.ที่เข้มแข็งอยู่แล้ว สามารถที่จะปกป้องงบประมาณต่างๆ เพื่อให้เป็นประโยชน์กับประชาชนในจังหวัดสตูล เขาสามารถเป็นผู้แทนคนจังหวัดสตูล และทำให้มันเกิดขึ้นได้ ส่วนโครงการผนังกั้นน้ำ ทราบว่า ถูกบรรจุในงบประมาณปี 2570 แล้ว
“ วันนี้มาเพื่อให้กำลังใจ ที่สตูลคงไม่มีอะไรหนักหนาไปมากกว่านี้แล้ว นอกจากฝนจะตกอีก ซึ่งจะมีการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก และนำของมาเยี่ยม ขอให้มั่นใจว่าเราจะไม่มีวันทอดทิ้งกัน คนสตูลให้ผู้แทนยกจังหวัดกลับพรรคที่ตนเป็นหัวหน้าพรรค ต้องถือว่ามีความผูกพัน มีพันธะที่จะต้องรับผิดชอบ คุณภาพชีวิตของประชาชนชาวสตูลให้มากที่สุด ขอให้มีกำลังใจ ขอให้มีความสุขในช่วงสิ้นปี สิ่งที่ดีเลวร้าย ก็ขอให้มันผ่านพ้นไปและขอให้ทุกคนช่วยกัน เพื่อทำให้ความทุกข์ของประชาชนมลายหายสิ้นไปให้ได้มากที่สุด ” นายกฯ กล่าว.
