“สุทิน”เผยเพื่อไทยเผยทิศทางยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจขึ้นอยู่กับสัญญาณจากการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 พร้อมเตรียมร้องศาลรัฐธรรมนูญเอาผิดจริยธรรมรัฐมนตรีรายบุคคล—รวมถึงนายกฯ อนุทิน
เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า พรรคเพื่อไทยยังต้องรอฟังทิศทางการอภิปรายในขั้นพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระสองก่อน จากนั้นจึงจะประเมินสถานการณ์ว่าควรยื่นญัตติไม่ไว้วางใจทันที หรือรอให้การลงมติในวาระสามเสร็จสิ้น เนื่องจากสถานการณ์การเมืองมีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงต้องฟังสัญญาณจากการอภิปรายในวาระสองเพื่อประเมินว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระสามมีโอกาสผ่านหรือไม่ ก่อนกำหนดวันและเวลายื่นญัตติอีกครั้ง
นายสุทิน ระบุว่า ก่อนการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาความผิดด้านจริยธรรมของรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยเชื่อว่าสังคมพอคาดเดาได้ว่าจะมีใครบ้าง ทั้งในประเด็นคุณสมบัติ การประพฤติตัวก่อนและหลังเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งพบว่ามีหลายคนเข้าข่ายคุณสมบัติมิชอบ โดยหนึ่งในนั้นคือนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รัฐบาลชุดนี้ถือเป็นรัฐบาลที่มีข้อครหาและข้อมูลปัญหามากที่สุดเมื่อเทียบกับรัฐบาลที่เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ถึงขั้นต้องพิจารณาว่าควร “ตัดประเด็นไหนออก” เพราะมีเรื่องให้ตรวจสอบจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการจัดทำงบประมาณที่ถูกตั้งข้อสงสัย หรือกรณีความล้มเหลวในการบริหารจัดการเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ที่เต็มไปด้วยดราม่า
“รัฐบาลทุกยุคเมื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ มักจะแสดงความมั่นใจ ไม่กลัวการตรวจสอบ แต่รัฐบาลชุดนี้กลับยกธงขาว เตรียมเผ่น เป็นเรื่องประหลาดที่ไม่เคยพบเห็น และยังมาขู่ว่าหากพรรคเพื่อไทยยื่นอภิปราย ก็จะยุบสภาหนี ทั้งที่เป็นเรื่องน่าอาย ควรมีเชิงบ้าง” นายสุทินกล่าวและว่า เมื่อพรรคเพื่อไทยตัดสินใจยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว พรรคประชาชนจะร่วมด้วยหรือไม่เป็นสิทธิ์ของพรรคดังกล่าว แต่ขณะนี้ยังมีท่าทีลังเล พรรคเพื่อไทยจึงเดินหน้าตามภารกิจของตนเอง พร้อมเตือนฝ่ายค้ำรัฐบาลว่า หากยืนค้ำกันไปมาโดยไม่ประเมินสถานการณ์ให้ดี อาจพลอยล้มทับกันเองได้ในที่สุด



















