กองทัพบก ทหารเรือ กองทัพอากาศ และตำรวจ ร่วมแถลงความเคลื่อนไหวชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันทุกปฏิบัติการมุ่งปกป้องอธิปไตยและชีวิตประชาชน พร้อมอพยพประชาชนสู่พื้นที่ปลอดภัย
เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.68 ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก พล.ร.ต.สุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม (โฆษกกลาโหม) , พล.ร.ต.ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ (โฆษกอทร.) , พล.อ.ท.จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ (โฆษก ทอ.) , พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก (รองโฆษก ทบ.) และ พล.ต.ต. ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก สตช.) ร่วมแถลงข่าวการดำเนินการของเหล่าทัพต่อสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา
พล.ร.ต.สุรสันต์ ระบุว่า การปะทะครั้งล่าสุดเกิดจากการโจมตีทหารไทยของฝ่ายกัมพูชาในพื้นที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม รวมถึงการปะทะต่อเนื่องในวันที่ 8 ธันวาคม ซึ่งเป็นสาเหตุให้ไทยต้องดำเนินการทางทหารเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน พร้อมย้ำว่าฝ่ายไทยไม่ได้เป็นผู้เริ่มต้นความรุนแรง
พ.อ.ริชฌา รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยรายละเอียดการปฏิบัติการในพื้นที่รับผิดชอบทั้ง ทภ.1 และ ทภ.2 โดยกองทัพบกได้ผลักดันฝ่ายกัมพูชาออกจากพื้นที่บางส่วน ทำลายที่มั่นและอาวุธที่ใช้โจมตี พร้อมปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด
พล.ร.ต.ปารัช โฆษกกองทัพเรือ ระบุว่า กองทัพเรือได้ผลักดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่บ้านหนองรี จ.ตราด พร้อมตรวจสอบและปรับปรุงฐานที่มั่นเพื่อป้องกันการรุกรานซ้ำ ขณะที่ พล.อ.ท.จักรกฤษณ์ โฆษกกองทัพอากาศยืนยันว่าการโจมตีเป้าหมายทหารจะดำเนินต่อจนกว่าฝ่ายกัมพูชาจะยุติภัยคุกคามและการละเมิดอธิปไตย
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตำรวจภูธรภาค 2 และ 3 รวมถึงตำรวจตระเวนชายแดน จัดตั้งจุดตรวจและอำนวยความสะดวกการอพยพประชาชน โดยดูแลความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินอย่างเข้มงวด ขณะนี้มีศูนย์พักพิงรวมกว่า 731 แห่ง รองรับประชาชนกว่า 1 แสน 2 หมื่นคน พร้อมกำลังตำรวจกว่า 5 พันนายสนับสนุน
ทั้งนี้ เหล่าทัพและตำรวจยืนยันว่าทุกปฏิบัติการมุ่งปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความปลอดภัยของประชาชนไทย จนกว่าฝ่ายกัมพูชาจะเปลี่ยนจุดยืนและพร้อมเข้าสู่การเจรจาสันติภาพอย่างแท้จริง
