กระทรวงการต่างประเทศยืนยันดำเนินการเชิงรุก แจ้งข้อเท็จจริงต่อประชาคมโลก พร้อมเตือนคนไทยในกัมพูชาระวังความปลอดภัยชี้เปิดให้กลไกอาเซียนตรวจสอบเน้นความโปร่งใส รักษาอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.68 ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า หลังเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างฝ่ายไทยและกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการเชิงรุกไปแล้ว 5 เรื่อง
อันดับแรก กระทรวงได้ส่งหนังสือประท้วงไปยังรัฐบาลกัมพูชา 2 ฉบับ เรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชายุติการคุกคามอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน รวมถึงรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและยุติการกระทำยั่วยุต่างๆ
อันดับสอง เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้บรรยายสรุปสถานการณ์แก่คณะทูตและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศประจำประเทศไทย พร้อมยืนยันว่ากระทรวงจะจัดบรรยายสรุปให้แก่คณะทูตต่างประเทศอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ
อันดับสาม เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ส่งหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติและประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2568 โดยแจ้งการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 400,000 คนที่ต้องเร่งอพยพ พร้อมชี้แจงความจำเป็นของไทยในการป้องกันตนเอง และเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศกดดันให้กัมพูชายุติการยั่วยุทุกรูปแบบ เพื่อเปิดทางให้เกิดการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี
อันดับสี่ สถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก ดำเนินการเชิงรุกในการชี้แจงข้อเท็จจริงและจุดยืนของไทยต่อประเทศเจ้าบ้าน เพื่อให้ทั่วโลกได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเท่าทันสถานการณ์
อันดับห้า กระทรวงการต่างประเทศยังเดินหน้าชี้แจงกับสื่อต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยนายสีหศักดิ์ให้สัมภาษณ์แก่สื่อต่างประเทศหลายสำนัก เพื่อให้ประชาคมระหว่างประเทศได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นการดำเนินการประชาสัมพันธ์เชิงรุก
นายนิกรเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนประจำประเทศไทย (AOT) ได้ลงพื้นที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับพลทหารไทยที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ปะทะระหว่างวันที่ 7-8 ธันวาคม และได้เยี่ยมให้กำลังใจทหารที่ได้รับบาดเจ็บ โดยการเปิดให้กลไกอิสระของอาเซียนเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงถือเป็นการยืนยันความโปร่งใสของฝ่ายไทย
สำหรับประชาชนไทยในกัมพูชา ปัจจุบันมีประมาณ 600–1,200 คน โดยสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ และสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ ได้ติดต่อและแจ้งพัฒนาการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง กระทรวงการต่างประเทศได้ออกประกาศแจ้งเตือนให้คนไทยที่ไม่มีเหตุจำเป็นพำนักในกัมพูชา พิจารณาเดินทางออกจากประเทศ และขอให้ประชาชนงดการเดินทางไปยังกัมพูชาจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
นายนิกรเดช ย้ำว่า การดำเนินการทั้งหมดของไทยมีจุดมุ่งหมายเพื่อรักษาและปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน พร้อมขอความร่วมมือสื่อมวลชนและประชาชนทุกท่านบริโภคข่าวสารอย่างระมัดระวัง เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน



















