หน้าแรกHighlight“อนุทิน”โต้“ยุบสภา”หนีการถูกตรวจสอบ ยันคืนอำนาจปชช.ชี้การเมืองไปต่อไม่ได้

“อนุทิน”โต้“ยุบสภา”หนีการถูกตรวจสอบ ยันคืนอำนาจปชช.ชี้การเมืองไปต่อไม่ได้

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

นายกรัฐมนตรี ชี้แจงผ่านรายการ “กรรมกรข่าว คุยนอกจอ” ยืนยันการยุบสภาไม่ใช่การหนีการตรวจสอบ แต่เป็นทางออกเมื่อฝ่ายค้ำรัฐบาลไม่เดินหน้าต่อ ย้ำไม่สามารถโน้มน้าว สว. ได้ และจำเป็นต้องคืนอำนาจให้ประชาชนผ่านการเลือกตั้ง ท่ามกลางกระแสวิจารณ์ทางการเมืองที่ร้อนแรง

เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 15 ธ.ค.68 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ “กรรมกรข่าว คุยนอกจอ” โดยมีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เป็นผู้ดำเนินรายการ ถึงกรณีการประกาศยุบสภา ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการยุบสภาเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบหรือไม่

นายอนุทิน กล่าวว่า การตรวจสอบยังไม่เกิดขึ้น เนื่องจากยังไม่มีใครยื่นเรื่องตรวจสอบ พร้อมย้ำว่า การยุบสภาเกิดจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ฝ่ายค้ำรัฐบาลแสดงท่าทีไม่สนับสนุนต่อไป โดยมีการเสนอให้ยุบสภาแทนการถอนการค้ำรัฐบาล

เมื่อพิธีกรถามถึงกรณีที่พรรคประชาชน (ปชน.) ระบุว่านายกรัฐมนตรีได้ทูลเกล้าฯ ร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาไปแล้ว ก่อนที่พรรคดังกล่าวจะออกมาเรียกร้อง นายอนุทิน ชี้แจงว่า ยังไม่ได้ทูลเกล้าฯ ในช่วงเย็นตามที่ถูกกล่าวอ้าง โดยระบุว่าได้ทูลเกล้าฯ ในคืนนั้นเวลาประมาณ 22.00 น. และเป็นการดำเนินการด้วยตนเอง

สำหรับข้อครหาว่าเป็นการ “หักหลัง” พรรคประชาชน ซึ่งเชื่อว่านายกรัฐมนตรีสามารถโน้มน้าวสมาชิกวุฒิสภาได้ นายอนุทิน กล่าวว่า หากกล่าวเช่นนั้นก็จะถูกตีความว่าเป็นการฮั้ว สว. ยืนยันว่า ตนไม่สามารถสั่งการหรือโน้มน้าว สว. ได้ และแต่ละฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตนเอง พร้อมระบุว่า สถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นบทพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของตน เนื่องจากเมื่อเอ็มโอยังไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ ก็จำเป็นต้องคืนอำนาจให้ประชาชนผ่านการเลือกตั้ง

นายอนุทิน ยังกล่าวว่า ฝ่ายที่วิจารณ์ไม่ได้เสียรู้ตนแต่อย่างใด เพราะไม่ได้มีการพูดคุยกับตนโดยตรง พร้อมย้ำว่า หากมีการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 16 ธ.ค. ตนก็จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมตามขั้นตอน และยืนยันความจริงใจในการทำงาน แม้อาจมีคำพูดที่ไม่ถูกใจบางฝ่าย แต่สิ่งที่คิดก็พูดออกมาตรงไปตรงมา

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า รัฐบาลชุดนี้สามารถเข้าสู่กระบวนการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ แต่ควรใช้มาตรา 152 มากกว่ามาตรา 151 เนื่องจากหากเกิดการลงมติไม่ไว้วางใจจนรัฐบาลพ้นสภาพ จะส่งผลให้ประเทศไม่มีรัฐบาลในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ และต้องใช้เวลานานกว่าจะจัดตั้งรัฐบาลและคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งตนได้เตือนฝ่ายที่เกี่ยวข้องไว้ล่วงหน้าแล้วไม่ให้เล่นเกมทางการเมืองลักษณะนี้

เมื่อถูกถามถึงกระแสวิจารณ์ว่า มีความพยายามอาศัยกระแสชาตินิยมเพื่อสร้างคะแนนนิยมทางการเมือง และทำให้สถานการณ์ยังคงตึงเครียดเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ปัจจุบันตนดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ทำงานเพื่อรัฐบาลและประเทศชาติเป็นหลัก ไม่ได้ยึดโยงกับผลประโยชน์ของพรรคการเมืองใด

“ผมไม่ได้คิดเรื่องกระแส แต่ห่วงบ้านเมือง ห่วงสถานการณ์กัมพูชา หากเข้าสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วรัฐบาลล้ม ประเทศจะไม่มีรัฐบาล ทุกอย่างต้องเริ่มใหม่ ใช้เวลาอีกเป็นเดือน ซึ่งเป็นเรื่องของรัฐบาลและการเลือกตั้ง ไม่ใช่เรื่องของพรรคภูมิใจไทย” นายอนุทิน กล่าว พร้อมย้ำว่า ตนต้องการให้มีการเลือกตั้งมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาแล้ว

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img