หน้าแรกHighlightเมกะโปรเจกต์สะดุด!หลัง“อนุทิน”ยุบสภา โยนหน้าที่ให้กับ“รัฐบาลใหม่”เป็นผู้ชี้ขาด

เมกะโปรเจกต์สะดุด!หลัง“อนุทิน”ยุบสภา โยนหน้าที่ให้กับ“รัฐบาลใหม่”เป็นผู้ชี้ขาด

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

รัฐบาลประกาศยุบสภากระทบโครงการเมกะโปรเจกต์ ทั้งแผนซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้า-แก้สัญญาไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน-รถไฟทางคู่เฟส 2 จำนวน 6 เส้นทาง วงเงินรวม 297,924 ล้านบาท

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า หลังจากที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ประกาศยุบสภากระทบต่อโครงการขอซื้อคืนสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าจากภาคเอกชน เพื่อให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นเจ้าของเดีย ไม่สามารถดำเนินการได้ และต้องรอรัฐบาลใหม่ รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) ที่ยังมีปัญหาอยู่ในปัจจุบัน

ทั้งนี้แม้ว่าคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมามีมติให้เสนอทบทวนมติ ครม.เกี่ยวกับโครงการไฮสปีดเชื่อมสามสนามบิน โดยเสนอ ครม.เพื่อพิจารณาแก้ไขสัญญาร่วมทุน 2 ประเด็น ได้แก่ 1.การแบ่งจ่ายค่าสิทธิแอร์พอร์ตเรลลิงก์ และ 2.การจ่ายเงินสนับสนุกจากภาครัฐปรับเป็นสร้างไปจ่ายไป

โดยการพิจารณาแก้สัญญาโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อม3 สนามบินนั้น ผ่านบอร์ด รฟท.แล้ว และขั้นตอนต่อไปเตรียมเสนอคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) แต่เนื่องด้วยเป็นประเด็นที่มีผลผูกพัน ดังนั้นรัฐบาลรักษาการจึงไม่สามารถพิจารณาเรื่องนี้ได้ และเป็นผลทำให้โครงการไฮสปีดเทรนสายนี้จะต้องหยุดชะงักเพื่อรอรัฐบาลใหม่เช่นกัน

ส่วนโครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ปัจจุบันออกหนังสือเริ่มงานก่อสร้าง (NTP) ไม่ได้เพราะในเงื่อนไขสัญญากำหนดไว้ว่าต้องมีข้อตกลงเรื่องจุดร่วมกับโครงการไฮสปีดเทรน แต่โครงการไฮสปีดเทรนยังไม่ชัดเจน ทำให้โครงการท่าอากาศยานอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกยังไม่สามารถเริ่มตอกเสาเข็มก่อสร้างได้

นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า รฟท.มีโครงการลงทุนสำคัญต้องรอรัฐบาลใหม่ คือ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 6 เส้นทาง วงเงินรวม 297,924 ล้านบาท ประกอบด้วย

1.ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตร วงเงิน 30,422 ล้านบาท

2.ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร วงเงิน 66,270 ล้านบาท

3.ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร วงเงิน 7,772 ล้านบาท

4.ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 281 กิโลเมตร วงเงินประมาณ 81,143 ล้านบาท

5.ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กิโลเมตร วงเงิน 44,095 ล้านบาท

6.ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กิโลเมตร วงเงิน 68,222 ล้านบาท

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img