นายกฯ ระบุการหารือรัฐมนตรีต่างประเทศจีน–สหรัฐฯ เป็นไปในทิศทางที่ดี ย้ำไทยยึดกรอบข้อตกลงเดิม พร้อมตั้งเงื่อนไขความปลอดภัยของประเทศเป็นหลัก
เมื่อเวลา 13.25 น. วันที่ 19 ธ.ค. ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้พูดคุยกับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า ขณะนี้นายสีหศักดิ์อยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจที่ประเทศญี่ปุ่น และได้รายงานความคืบหน้ามาอย่างต่อเนื่อง
นายอนุทินกล่าวว่า นายสีหศักดิ์ได้โทรศัพท์หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา และมีการนัดหมายพูดคุยกับนายหวัง อี้ โดยยืนยันว่าการหารือทั้งหมดเป็นไปในทิศทางที่ดี ฝ่ายไทยได้ชี้แจงเหตุผลของการดำเนินการต่าง ๆ ที่กำลังดำเนินอยู่ พร้อมยืนยันชัดเจนว่า ประเทศไทยไม่ใช่ฝ่ายรุกราน
นายกรัฐมนตรีระบุว่า หากจะมีการหารือเรื่องการหยุดยิง จำเป็นต้องให้ฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้เริ่มต้นดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม โดยต้องแสดงให้เห็นถึงความจริงใจในการลดความตึงเครียด จนกว่าประเทศไทยจะมั่นใจได้ว่า ภัยคุกคามและความเป็นอันตรายต่อประเทศได้หมดไปแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่ามีประเทศมหาอำนาจที่สามเข้ามากดดันประเทศไทยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ในบริบทของยุคปัจจุบัน คำว่า “กดดัน” จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกระทำการที่ไม่ถูกต้อง ละเมิดข้อตกลง หรือสร้างความเดือดร้อนและเอาเปรียบผู้อื่นก่อน ซึ่งประเทศไทยไม่ได้อยู่ในบริบทดังกล่าว
“ความกดดันควรไปอยู่กับประเทศผู้รุกราน หรือผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง และละเมิดสัญญาที่มีต่อกัน” นายอนุทินกล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า หากมีการเรียกร้องให้ประเทศไทยกลับไปยึดตามปฏิญญาหรือข้อตกลงเดิม ยืนยันว่าไทยยังคงอยู่ในกรอบดังกล่าวมาโดยตลอด และไม่เคยถอนตัวออกไป แต่สิ่งที่จำเป็นในขณะนี้ คือ ฝ่ายกัมพูชาต้องกลับมาปฏิบัติตามปฏิญญานั้นอย่างครบถ้วน พร้อมมีเงื่อนไขเพิ่มเติม ได้แก่ การถอนกำลัง ถอนอาวุธ และสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศไทยว่า จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อประเทศอีก
“ผู้ที่ละเมิดข้อตกลง จำเป็นต้องแสดงท่าทีและความรับผิดชอบมากเป็นพิเศษ” นายอนุทิน กล่าว



















