“ประเสริฐ” ระบุ พรรคเพื่อไทยเตรียมเปิดอีเวนต์ใหญ่ เปิดตัวผู้สมัคร สส.ระบบเขต 400 เขต บัญชีรายชื่อ 100 คน พร้อมแสดงความกังวลพฤติกรรมใช้อำนาจไม่สุจริตในช่วงเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง วอน กกต.และรัฐบาลดูแลการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม
เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.68 ที่พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ พรรคเพื่อไทยเตรียมเปิดอีเวนต์ใหญ่ เปิดตัวผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อย่างเป็นทางการ ครบทั้งระบบเขตเลือกตั้ง 400 เขต และระบบบัญชีรายชื่อ 100 คน ซึ่งขณะนี้พรรคได้ผู้สมัครครบถ้วนทุกตำแหน่งแล้ว
นายประเสริฐ ระบุว่า พรรคเพื่อไทยได้รับการร้องเรียนจากผู้ที่ประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกพรรค และผู้สนับสนุนในหลายพื้นที่ ถึงพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่มีลักษณะสุ่มเสี่ยงต่อการใช้อำนาจข่มขู่คุกคามผู้สมัครของพรรค ซึ่งประเด็นดังกล่าวเคยปรากฏเป็นข่าวมาแล้ว จึงขอวิงวอนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลการเลือกตั้งตั้งแต่ต้นทาง รวมถึงรัฐบาลในฐานะผู้กำกับดูแลทุกภาคส่วน ให้เข้มงวดดูแลสถานการณ์ในช่วงเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม และปราศจากข้อครหาว่าไม่เป็นกลาง
“ในสถานการณ์ที่มีการแข่งขันทางการเมือง หากปล่อยให้บางกลุ่มบางสีใช้อำนาจที่ไม่สุจริต ย่อมสร้างปัญหาต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการเลือกตั้ง” นายประเสริฐ กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้กำชับทุกภาคส่วนให้รวบรวมพยานหลักฐานและบันทึกพฤติกรรมที่เข้าข่ายการข่มขู่คุกคาม หรือการใช้อำนาจโดยมิชอบ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาและยื่นต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณี นายไชยา พรหมา อดีต สส.หนองบัวลำภู เขต 2 ที่ยื่นลาออกจากพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ กล่าวว่า พรรคได้ผู้สมัครทดแทนเรียบร้อยแล้ว เป็นบุคคลที่มีศักยภาพและเป็นที่รู้จักในพื้นที่ พร้อมยืนยันว่าไม่มีปัญหาใด ๆ ในการหาผู้สมัคร
ทั้งนี้ นายไชยาได้ส่งเอกสารลาออกถึงหัวหน้าพรรคและตนผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ โดยไม่ได้ระบุเหตุผลในการลาออก เพียงกล่าวขอบคุณพรรคเพื่อไทย ซึ่งตนไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงของการย้ายพรรค เนื่องจากหนังสือลาออกไม่ได้ระบุว่าจะไปสังกัดพรรคการเมืองใด พร้อมย้ำว่า ระหว่างที่นายไชยาสังกัดพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้มีปัญหาใด ๆ และพรรคยังให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งในตำแหน่งรัฐมนตรีและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร
“กรณีที่ท่านไชยาระบุเหตุผลว่าเป็นความจำเป็นทางการเมือง ไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ส่วนตัว พรรคก็รับทราบตามนั้น” นายประเสริฐ กล่าว
เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่จะมีผู้สมัครย้ายออกจากพรรคเพิ่มเติมก่อนวันรับสมัคร นายประเสริฐ กล่าวว่า ช่วงสุดสัปดาห์นี้ถือเป็นกรอบเวลาสุดท้าย เนื่องจากผู้สมัครต้องผ่านกระบวนการไพรมารีโหวต หากต้องการสมัครทันในวันแรก จะต้องเตรียมความพร้อมภายในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนที่ กกต. กำหนด
ด้านนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้น่ากังวลอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการย้ายพรรคของนักการเมืองที่เกิดขึ้นอย่างง่ายดาย ซึ่งเบื้องหลังการย้ายพรรคเป็นที่รับรู้กันดีว่ามีปัจจัยเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง
นายชูศักดิ์ ระบุว่า การเมืองลักษณะดังกล่าวกำลังนำประเทศเข้าสู่ “มันนี่ โพลิติกส์” ใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อชนะการเลือกตั้ง ซึ่งจะก่อให้เกิดวงจรอุบาทว์ทางการเมือง คือการถอนทุนคืนและแสวงหาผลประโยชน์หลังได้อำนาจ ซึ่งเป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต และส่งผลเสียต่อประเทศชาติและประชาธิปไตย
นายชูศักดิ์ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยประเมินว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการแข่งขันที่ดุเดือด ใช้ปัจจัยต่าง ๆ อย่างเข้มข้น และมีความเสี่ยงต่อการทุจริตเลือกตั้งในวงกว้าง พรรคจึงเตรียมจัดตั้งศูนย์ปราบโกงการเลือกตั้งในสัปดาห์หน้า เพื่อเฝ้าระวังและดูแลให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริตและเป็นธรรม
