หน้าแรกNEWS“ยศชนัน–จุลพันธ์” ชูแก้ปัญหาน้ำเชิงระบบ มั่นใจนโยบายตรงใจประชาชน

“ยศชนัน–จุลพันธ์” ชูแก้ปัญหาน้ำเชิงระบบ มั่นใจนโยบายตรงใจประชาชน

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img


จุลพันธ์-ยศชนัน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นำทีมลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและสุพรรณบุรีเป็นครั้งแรก รับฟังปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากและภาคเกษตร ย้ำเดินหน้านโยบายบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ พร้อมประกันกำไรสินค้าเกษตร 30% เชื่อมั่นเข้าถึงประชาชนและสามารถปักธงพื้นที่ได้


เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งถือเป็นพื้นที่แรกของนายยศชนัน หลังมีความชัดเจนเรื่องตัวผู้สมัครครบถ้วน

นายยศชนัน กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก เนื่องจากพรรคมีความพร้อมเรื่องผู้สมัคร ซึ่งได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็นปัญหาความเดือดร้อนในหลายมิติ พรรคเพื่อไทยจึงต้องการสะท้อนปัญหาและรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน เพื่อนำไปปรับแก้นโยบายให้สอดคล้องกับความต้องการมากที่สุด ก่อนยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยย้ำว่าการแก้ไขปัญหามีทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว บางเรื่องสามารถดำเนินการได้ทันที

เมื่อถูกถามถึงปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่าจะทำได้มากกว่าการแจกของและเยียวยาหลังน้ำลดหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ปัญหาน้ำท่วมเป็นเรื่องของการบริหารจัดการต้นทุนน้ำทั้งระบบ รวมถึงการบริหารเขื่อนที่บางครั้งเกิดปัญหาการกักน้ำจนต้องปล่อยน้ำออกในภายหลัง ซึ่งพรรคเพื่อไทยลงพื้นที่อยุธยาหลายครั้งเพื่อสะท้อนให้รัฐบาลรักษาการเห็นว่า นอกจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาแล้ว ยังมีปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ รวมถึงจังหวัดสงขลาและอำเภอหาดใหญ่ ที่แม้น้ำจะลดแล้ว แต่ปัญหายังไม่จบ

นายจุลพันธ์ ระบุว่า จากการลงพื้นที่จริง พบว่าสภาพความเสียหายยังไม่สามารถฟื้นฟูได้ในระยะเวลาอันสั้นตามที่มีการกล่าวอ้าง ขณะที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาก็ยังเผชิญน้ำท่วมยาวนานหลายเดือน ประชาชนยังได้รับความเดือดร้อน พรรคเพื่อไทยจึงมีนโยบายชัดเจนเรื่องการบริหารจัดการน้ำตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และการแก้ปัญหาทั้งระบบ

ด้านนโยบายภาคเกษตร นายจุลพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า พรรคเพื่อไทยได้เปิดนโยบายประกันกำไรสินค้าเกษตร 30% และจากการรับฟังเสียงประชาชนในพื้นที่ เชื่อว่านโยบายดังกล่าวตอบโจทย์และตรงกับความต้องการของเกษตรกร

เมื่อถามว่านโยบายดังกล่าวจะสามารถต่อสู้กับกลุ่มบ้านใหญ่ โดยเฉพาะในจังหวัดสุพรรณบุรีได้หรือไม่ นายยศชนัน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมองว่ากลไกทางการเมืองเป็นสิ่งที่ต้องทำให้เกิดขึ้นได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการคัดเลือกบุคคลที่มีคุณภาพ มีความเข้าใจ และเข้าถึงประชาชนอย่างสม่ำเสมอ เชื่อว่าจะสามารถชนะใจประชาชนได้

สำหรับกรณีบ้านใหญ่ในจังหวัดสุพรรณบุรีที่ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย นายยศชนัน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยก้าวข้ามประเด็นเรื่องพรรคการเมืองไปแล้ว และมุ่งเน้นการทำนโยบายเพื่อประชาชนเป็นหลัก จึงคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. ที่สามารถนำนโยบายไปแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้จริง

ขณะที่นายจุลพันธ์ กล่าวเสริมว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ยึดติดกับเรื่องบ้านเล็กบ้านใหญ่ เพราะเคยผ่านการต่อสู้กับอำนาจรัฐมาแล้วหลายครั้ง ทั้งช่วงเป็นฝ่ายค้านและช่วงเลือกตั้ง ซึ่งสามารถชนะใจประชาชนได้จากการลงพื้นที่ทำความเข้าใจอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าครั้งนี้พรรคมีความมั่นใจในนโยบาย และเชื่อมั่นในตัวบุคคล โดยเฉพาะกระแสตอบรับต่อนายยศชนันที่อยู่ในระดับน่าพอใจ พร้อมย้ำว่าพรรคเพื่อไทยยังคงยึดมั่นในการเดินเข้าหาประชาชนเป็นหัวใจสำคัญ

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img