คดี “ทักษิณ ชินวัตร” โดนฟ้องหมิ่นสถาบันฯ จากการให้สัมภาษณ์ปี 2558 ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษา 22 ส.ค.นี้ หลังทีมทนายแถลงปิดคดี พร้อมยืนยันพยานฝ่ายโจทก์ไม่ชัดเจน ทักษิณอารมณ์ดี เชื่อกระบวนการยุติธรรม
วันที่ 16 ก.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ห้องพิจารณา 902 ศาลได้นัดสืบพยานจำเลยนัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ซึ่งพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในข้อหาหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากกรณีให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อปี 2558
ภายหลังเสร็จสิ้นการสืบพยานในเวลา 12.00 น. ทีมทนายความได้แถลงหมดพยาน ศาลจึงนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 22 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. โดยในวันนี้ นายทักษิณเดินทางกลับโดยรถเบนซ์คันเดิม ออกจากศาลทางประตู 7 หน้าศาลแพ่งรัชดาฯ พร้อมโบกมือทักทายกลุ่มผู้สนับสนุนและสื่อมวลชนอย่างอารมณ์ดี
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ เปิดเผยว่า ได้นำพยานจำเลยเข้าสืบรวม 3 ปาก ได้แก่ นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี, นายธงทอง จันทรางศุ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม และนายทักษิณเอง พร้อมระบุว่า แม้จะเตรียมพยานไว้ถึง 14 ปาก แต่เห็นว่าพยานที่สืบไปแล้วมีน้ำหนักเพียงพอและเหมาะสม จึงตัดสินใจแถลงปิดคดีและไม่ขอสืบพยานเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ทนายวิญญัติ ยืนยันว่า พยานฝ่ายโจทก์ที่นำเสนอยังไม่มีประจักษ์พยานชัดเจน และส่วนใหญ่เป็นพยานความเห็นจากผู้มีอคติทางการเมือง อีกทั้งยังระบุว่า นายทักษิณได้รับการปล่อยชั่วคราวจากคดีนี้ และจะเดินทางมาศาลอีกครั้งในต้นเดือนหน้าเพื่อรายงานตัว ก่อนจะกลับมาอีกครั้งในวันพิพากษา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความรู้สึกของนายทักษิณหลังจบการสืบพยาน ทนายส่วนตัวระบุว่า เจ้าตัวมีท่าทีผ่อนคลาย อารมณ์ดี และยังเชื่อมั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรม
สำหรับคำสั่งห้ามออกนอกราชอาณาจักรของศาลจะสิ้นสุดลงหลังจากการฟังคำพิพากษาในศาลชั้นต้น ส่วนท่าทีหลังคำพิพากษาจะเดินทางไปต่างประเทศหรือไม่นั้น ทนายความขอให้รอดูผลคำพิพากษาก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป.











