หน้าแรกNEWS“ภูมิธรรม” ลั่น 3 เดือนต้องเห็นผล! สั่งผู้ว่าฯ ลุยแก้ยาเสพติดทั่วประเทศ

“ภูมิธรรม” ลั่น 3 เดือนต้องเห็นผล! สั่งผู้ว่าฯ ลุยแก้ยาเสพติดทั่วประเทศ

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

มท.1มอบนโยบายต้านยาเสพติดที่ศรีสะเกษ สั่งเข้มทุกจังหวัดร่วมมือจัดการอย่างจริงจัง ย้ำต้องเห็นผลภายใน 3 เดือน ชี้ผู้ค้ายารายย่อยต้องหมดไปจากหมู่บ้าน ขู่ย้ายทันทีหากผู้รับผิดชอบไม่ขยับ

เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่โครงการชลประทานศรีสะเกษ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ณ ห้องประชุม 1 โครงการชลประทานศรีสะเกษ

นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวรายงานว่า การขับเคลื่อนภารกิจต้านยาเสพติดในพื้นที่ดำเนินไปตามนโยบายรัฐบาลอย่างเคร่งครัด โดยเน้นการทำงานแบบบูรณาการทุกหน่วยงาน

ด้านนายภูมิธรรม กล่าวว่า นี่คือภารกิจแรกในฐานะ รมว.มหาดไทย และรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง โดยขอใช้โอกาสนี้ขับเคลื่อนวาระเร่งด่วนระดับชาติ คือการต่อสู้กับปัญหายาเสพติด พร้อมย้ำว่า ปัญหาดังกล่าวไม่ได้ด้อยไปกว่าเศรษฐกิจ แต่กำลังลุกลามเข้าทำลายครอบครัว ชีวิต และอนาคตของประชาชน โดยเฉพาะเยาวชน

“ตัวเลขการจับกุมไม่ใช่เครื่องยืนยันความสำเร็จ หากชาวบ้านยังไม่รู้สึกปลอดภัย ถือว่าเราล้มเหลว” นายภูมิธรรมกล่าว พร้อมระบุว่า หน้าที่หลักอยู่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) กว่า 6-7 แสนคน ต้องร่วมกันเป็นหูเป็นตา ในวันที่ 17 ก.ค.นี้ ตนจะประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ หากใครไม่เข้าร่วมโดยไม่มีเหตุจำเป็น เช่น ป่วยหนัก หรือมีภารกิจสำคัญ จะพิจารณาสั่งย้ายทันที เพราะถือว่าไม่สนองนโยบาย

นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงกรณีปัญหาวงการสงฆ์ว่า ขณะนี้ไม่ใช่แค่การจับสึก แต่กำลังดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ทั้งพระและสีกาที่มีส่วนร่วมสร้างความเสื่อมเสีย ย้ำว่า “พระไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่คือผู้ร่วมกระทำผิด” ทั้งนี้ สมัยรัฐบาลปี 2547 เคยจัดการปัญหายาเสพติดได้เด็ดขาด วันนี้จึงต้องเดินหน้าด้วยแนวคิด “Seal Stop Safe” ควบคู่การให้รางวัลและบทลงโทษแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมชี้ว่า ผู้เสพคือผู้ป่วย แต่ผู้ค้ายาและผู้มีอิทธิพลต้องถูกดำเนินการให้สิ้นซาก

นายภูมิธรรมยังพูดถึงปัญหาจากกัญชาและกระท่อม ที่ถูกแสวงหาประโยชน์จากนักการเมืองและนักธุรกิจว่า สร้างความปวดหัวให้สังคม พร้อมเผยว่า “เจ้านายทรงห่วงใยเรื่องนี้”

ท้ายที่สุด นายภูมิธรรม ขอให้กระทรวงมหาดไทยจัดตั้งเครือข่าย “ตาสับปะรด” ดึงภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในทุกหมู่บ้าน เพื่อสแกนผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด พร้อมสั่งเอกซเรย์พื้นที่อย่างละเอียด ถ้าชาวบ้านรู้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่รู้ ถือว่าผิด และหากไม่ดำเนินการอะไรเลย จะต้องมีผู้รับผิดชอบ

“3 เดือนต้องเห็นผล ยาเสพติดต้องไม่เป็นภัยคุกคามของประเทศอีกต่อไป” นายภูมิธรรมกล่าวย้ำ.

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_img