กลาโหมเผยความคืบหน้า GBC ฝ่ายเลขานุการเร่งหารือข้อสรุปหยุดยิงตามคำขอเขมร ยันกองทัพไทยเฝ้าระวังสูงสุดไม่วางใจสถานการณ์ ชี้ความสำเร็จขึ้นอยู่กับความจริงใจของกัมพูชาเป็นสำคัญ ด้านผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ร่วมจับตาความโปร่งใส
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย–กัมพูชา สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยความคืบหน้าการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย–กัมพูชา (General Border Committee : GBC) ซึ่งขณะนี้อยู่ในห้วงการประชุมฝ่ายเลขานุการ ระหว่างฝ่ายไทยและกัมพูชา ณ บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด จังหวัดจันทบุรี
โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุว่า การประชุมดังกล่าวเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยฝ่ายไทยได้เสนอประเด็นหารือให้ฝ่ายกัมพูชารับไปพิจารณาภายใน ก่อนที่ฝ่ายกัมพูชาจะกลับเข้าร่วมประชุมอีกครั้งในช่วงเช้าวันนี้ พร้อมเสนอประเด็นเพิ่มเติมให้ฝ่ายไทยรับไว้พิจารณา ซึ่งขณะนี้ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดในแต่ละประเด็น และมีกำหนดกลับมาประชุมร่วมกันอีกครั้งในเวลา 15.00 น. เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับกรอบและเนื้อหาการหารือร่วมกัน
พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุม GBC ครั้งนี้มีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (ASEAN Observer Team : AOT) ของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมด้วย ถือเป็นนัยสำคัญที่สะท้อนถึงความโปร่งใสของกระบวนการ โดยคณะ AOT จะได้รับทราบขั้นตอนการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง และในการประชุมอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ จะมีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนเข้าร่วมติดตามการประชุมเช่นเดียวกัน คาดว่าหลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันนี้ จะมีการประชุมฝ่ายเลขานุการ GBC ต่อเนื่องในวันที่ 26 ธันวาคม
สำหรับกรณีหนังสือที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชาส่งถึงกระทรวงกลาโหมไทย ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการขอหยุดยิงนั้น พล.ร.ต.สุรสันต์ ระบุว่า ประเด็นการหยุดยิงเคยถูกฝ่ายกัมพูชานำเสนอมาแล้วในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนก่อนหน้านี้ โดยเสนอให้มีการหยุดยิงในเวลา 22.00 น. ของวันที่ 22 ธันวาคม แต่ฝ่ายไทยเห็นว่าไม่สามารถหารือได้ เนื่องจากยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน
ต่อมาจึงมีหนังสือจาก พล.อ.เตีย เซยฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ส่งถึงฝ่ายไทย แม้ในหนังสือจะไม่ได้ระบุชัดเจนถึงการหยุดยิงโดยตรง แต่มีนัยว่าฝ่ายกัมพูชามีความประสงค์ให้มีการหยุดยิง ซึ่งต้องนำมาหารือในเวที GBC อย่างเป็นทางการ โดยหนังสือดังกล่าวเป็นการแจ้งมาเพียงฝ่ายเดียว โดยไม่ได้มีการหารือรายละเอียดกับฝ่ายไทยล่วงหน้า
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวอีกว่า ในหนังสือดังกล่าวมีนัยให้ทั้งสองฝ่ายกลับไปอยู่ในสถานะก่อนเหตุปะทะครั้งที่ 2 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือของคณะ GBC และฝ่ายเลขานุการ โดยต้องรอข้อสรุปร่วมกัน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการหารือครั้งนี้ถือว่ามีความคืบหน้าที่มีนัยสำคัญ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้รับข้อเสนอของกันและกันไปพิจารณาในรายละเอียดแล้ว
สำหรับสถานการณ์การปะทะที่เบาบางลงนั้น พล.ร.ต.สุรสันต์ ระบุว่า เหล่าทัพที่รับผิดชอบพื้นที่ยังคงเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด จากบทเรียนที่ผ่านมาไม่สามารถวางใจฝ่ายกัมพูชาได้ ทุกการปฏิบัติจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังสูงสุด โดยกองทัพยังคงเตรียมความพร้อมทั้งทางภาคพื้นดินและการปฏิบัติการทางอากาศ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดไว้
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ากัมพูชาไม่รับข้อเสนอ 3 ประการของฝ่ายไทยนั้น โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ไม่ต้องการชี้นำหรือชักจูงความเข้าใจใด ๆ แต่คาดหวังให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติให้ได้มากที่สุด พร้อมย้ำว่า ความสำเร็จของการประชุม GBC ครั้งนี้ ขึ้นอยู่กับฝ่ายกัมพูชาในฐานะผู้ริเริ่มสถานการณ์ หากต้องการยุติปัญหาอย่างแท้จริง จำเป็นต้องแสดงความจริงใจผ่านการปฏิบัติ การกระทำ และการแสดงออก ไม่ใช่เพียงคำพูด โดยเฉพาะในประเด็นการเก็บกู้ทุ่นระเบิด
ทั้งนี้ สำหรับข้อสังเกตเกี่ยวกับระยะเวลาการประชุมในช่วงที่ผ่านมา พล.ร.ต.สุรสันต์ ระบุว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกและแผนที่วางไว้ โดยการประชุมเมื่อวานใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เนื่องจากฝ่ายกัมพูชามารับประเด็นของฝ่ายไทยกลับไปพิจารณา ก่อนจะนำกลับมาเสนอพร้อมประเด็นเพิ่มเติมในการประชุมช่วงเช้าวันนี้
พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวทิ้งท้ายว่า บุคลากรที่เข้าร่วมประชุมล้วนเป็นผู้ที่คุ้นเคยกันดี การหารือด้านความสัมพันธ์และประเด็นต่าง ๆ ไม่มีปัญหาใด ๆ เพียงแต่อยู่ในขั้นตอนการตกลงเนื้อหาสาระว่าจะได้ข้อยุติร่วมกันในประเด็นใดบ้าง ซึ่งคาดว่าในช่วงบ่ายวันนี้จะมีความคืบหน้าเพิ่มเติม แม้ขณะนี้ตนเองยังไม่เห็นรายละเอียดข้อสรุปอย่างเป็นทางการ



















