ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 3.38 จุด แรงขายจากนักลงทุนสถาบัน-บัญชีบล.ถ่วงตลาด สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดดัชนีแกว่งออกข้างถึงฟื้นตัวให้กรอบแนวต้าน 1,168 – 1,175 จุด และแนวรับ 1,150 – 1,145 จุด
นายกรภัทร วรเชษฐ์ หัวหน้าสายงานวิจัย บล.กรุงศรี เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,157.63 จุด ลดลง 3.38 จุด หรือ -0.29% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 42,928.06 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีแกว่งไซด์เวย์ตลอดทั้งวัน เข้าสู่ช่วงพักตัว หลังรีบาวด์ขึ้นมาติดต่อกันหลายวัน และได้ติดแนวต้านเส้น 5 เดือน โดยมีปัจจัยเชิงลบจากรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ สูงกว่าตลาดคาดเล็กน้อย เข้ามากดดันธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะชะลอปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศว่า อินโดนีเซียสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ แล้ว โดยทางสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากอินโดนีเซียที่ 19% จากเดิม 32% น้อยกว่าเวียดนามที่ถูกเก็บภาษี 20% ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นไทยในบางส่วน แต่ในทางกลับกัน อินโดนีเซียก็เป็น 1 ในประเทศที่สหรัฐฯ ส่งจดหมายย้ำเตือนเส้นตายมาตรการภาษีครั้งล่าสุด เช่นเดียวกันกับไทย จึงทำให้นักลงทุนเริ่มมีความหวังว่าไทยจะสามารถเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ได้อย่างอินโดนีเซีย หรือหมายความว่าอาจจะได้ข้อสรุปที่ดีกว่าหรือเทียบเท่าเวียดนาม
ด้านมูลค่าการซื้อขายวันนี้พบว่านักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 139.64 ล้านบาท บัญชีบล.ขายสุทธิ 388.29 ล้านบาท
ต่างประเทศซื้อสุทธิ 475.78 ล้านบาทในประเทศซื้อสุทธิ 52.15 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดดัชนีแกว่งออกข้างถึงฟื้นตัว โดยแนะนำให้ติดตามสถานการณ์การเจรจาการค้าของสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า รวมถึงประเทศไทย ต่อไป พร้อมให้กรอบแนวต้าน 1,168 – 1,175 จุด และแนวรับ 1,150 – 1,145 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,154.65 ล้านบาท ปิดที่ 36.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,341.32 ล้านบาท ปิดที่ 31.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,254.21 ล้านบาท ปิดที่ 46.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,888.76 ล้านบาท ปิดที่ 157.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
KTC มูลค่าการซื้อขาย 1,725.20 ล้านบาท ปิดที่ 26.75 บาท ลดลง 0.50 บาท.
