ฟังไม่ขึ้น! “เท้ง” ชี้เป็นแค่ข้ออ้าง “เพื่อไทย” บอกเตรียมการช่วยคนติดคดี ม.112 สวน “วิสุทธิ์” คุยหลังบ้านได้กับพรรคร่วมฯ งดออกเสียงให้ร่างภาคประชาชนได้ไปต่อใน กมธ. บอกไม่ใช่มาอ้างว่าเสียงปริ่มน้ำแล้วต้องยอม มองโหวตได้หลายแนวทาง ถ้าเป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชนจริง
เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุว่า “ไม่ทิ้งเยาวชนที่โดนคดี ม.112 ยืนยันว่ามีแนวทางในการหาทางออก แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้” ว่า ความจริงมีวิธีในการสื่อสาร เพื่อให้เกิดความชัดเจนกับคนที่ได้รับผลกระทบคดีทางการเมืองต่าง ๆ แต่ก็ไม่ทราบเหตุผลว่า เหตุใดจึงไม่สามารถสื่อสารได้ จากการติดตามคำให้สัมภาษณ์ของนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล ที่ให้เหตุผลในการโหวตไม่รับร่าง เป็นเพราะมติของพรรคร่วมรัฐบาลและเกรงใจพรรคร่วมรัฐบาล และอาจกระทบกับเสถียรภาพของรัฐบาลนั้น ส่วนตัวเห็นว่ามีวิธีการโหวตในสภาหลายแนวทาง แม้จุดยืนจะไม่สามารถบีบบังคับให้พรรคร่วมฯรับร่างได้ แต่หากพรรคเพื่อไทยสื่อสารอย่างเข้มแข็งเพียงพอและเป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชนที่ถูกดำเนินคดีทางการเมือง อาจจะสามารถเจรจาในวิปได้ว่าไม่จำเป็นต้องออกเป็นมติของพรรคร่วมรัฐบาล โดยที่พรรคเพื่อไทยสามารถงดออกเสียงเพื่อเปิดโอกาสให้กับร่างของพรรคประชาชนและภาคประชาชนได้ผ่านไปในวาระที่หนึ่ง และได้พิจารณาในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) ได้ครอบคลุมมากกว่านี้ ดังนั้น การอ้างมติของวิปรัฐบาลอาจจะไม่มีน้ำหนักเท่าไหร่
เมื่อถามว่า ที่รัฐบาลมีมติไม่รับ แม้กระทั่งงดออกเสียงให้ เป็นเพราะเป็นข้อตกลงในพรรคร่วมรัฐบาลตั้งแต่ต้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ก่อนที่จะออกมาเป็นมติของวิปพรรคร่วมรัฐบาล ในที่ประชุมวิปต้องมีการคุยกัน ในฐานะที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ควรมีการแสดงออกเรื่องการเป็นจุดยืนของพรรค ไม่สามารถปฏิเสธร่างของภาคประชาชนหรือร่างคนอื่นๆ ได้ โดยไม่ควรออกมาเป็นมติของวิปรัฐบาล และเปิดให้พรรคแต่ละพรรคในพรรคร่วมรัฐบาลมีเอกสิทธิ์ในการโหวต และพรรคเพื่อไทยก็มีจุดยืนไม่ไปคว่ำร่างของคนอื่น โดยเฉพาะร่างของภาคประชาชน ซึ่งมีส่วนสำคัญไม่แพ้กัน
สำหรับทางออกในการช่วยผู้ที่ถูกคดีทางการเมืองนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยควรออกมาสื่อสารให้ชัดเจนว่ามีแนวทางการแก้ไขปัญหาในอนาคตอย่างไร ตนเชื่อว่าสื่อสารได้ และมีวิธีในการสื่อสารอยู่ ขณะเดียวกันการดำเนินการในชั้น กมธ. พรรคประชาชนก็จะใช้กลไกทุกวิถีทางในสภา เพื่อให้ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเปิดกว้างที่สุด
เมื่อถามว่า การออกมาพูดว่า “ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้” เป็นเพราะพรรคเพื่อไทยไม่ได้เตรียมการมาก่อน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในทางหลังบ้าน เหตุผลที่จะโหวตคว่ำร่างของภาคประชาชน เป็นเพราะประเด็นหลักเรื่องการนิรโทษกรรม ม.112 หรือไม่ ตรงนี้น่าจะเป็นสาเหตุที่สำคัญที่สังคมรู้ดี ดังนั้นการให้เหตุผลตามหลังของนายวิสุทธิ์ เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ซึ่งตนย้ำว่า ถ้าในวิปมีการแสดงจุดยืนที่ชัดเจน พรรคเพื่อไทยก็มีน้ำหนักเพียงพอที่ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเข้าใจได้ ไม่ใช่มาอ้างว่าเสียงปริ่มน้ำแล้วต้องยอม
ส่วนเรื่องนี้อาจโยงถึงการที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดนคดี ม.112 มีนัยยะอะไรหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนและพรรคประชาชนย้ำมาตลอดว่าการนิรโทษกรรมไม่ควรพุ่งเป้าบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่ควรครอบคลุมและไม่เลือกปฏิบัติ จะสามรถสร้างสันติสุข และเดินหน้ากระบวนการปรองดองได้อย่างแท้จริง.











