นายกฯ อนุทิน นำทีมบิ๊กกองทัพพระราชทานเพลิงศพพลทหารเหยื่อปะทะชายแดน พร้อมปลอบขวัญครอบครัวทหารกล้า ย้ำจุดยืน “อธิปไตยเหนือสิ่งอื่นใด” โบราณสถานพังซ่อมได้แต่ดินแดนเสียไม่ได้ เล็งผุดนโยบาย “กำแพง-รั้วมั่นคง” ป้องกันอริราชศัตรูถาวร
เมื่อเวลา 16.40 น. น.วันที่ 29 ธ.ค. ที่วัดเชือกนอก ตำบลนาจิก อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว. มหาดไทย เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ พลทหาร ธนพัฒน์ นันทะวงศ์ ทหารกล้าผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะ ระหว่าง ไทย – กัมพูชา บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 68 โดยมี พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม และพล.อ.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก ร่วมพิธีด้วย
โดยนายอนุทิน แสดงความเสียใจ และให้กำลังใจครอบครัวพลทหารธนพัฒน์ จากนั้นนายกฯ เป็นสักขีพยานในพิธีมอบธงชาติคลุมหีบศพ พร้อมมอบใบประกาศเกียรติคุณ รวมถึงเงินพระราชทาน เงินช่วยเหลือจากกองทัพบก และเงินสินไหมทดแทนจากกองทัพภาคที่ 1
ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับนายกฯ เดินทักทายประชาชน ซึ่งประชาชนได้กล่าวขอบคุณนายกฯ รวมถึงขอถ่ายภาพกับนายกฯ ไว้เป็นที่ระลึก พร้อมมอบผ้าขาวม้า ให้นายกรัฐมนตรี และตะโกนบอกว่า “รักนายกฯ”
จากนั้นนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมปราสาทตาควายและเนิน 350 จังหวัดสุรินทร์ ว่า ขณะนี้ประเทศไทยและคู่กรณีได้มีการลงนามในถ้อยแถลงหยุดยิงแล้ว สถานการณ์โดยรวมยังไม่มีสิ่งใดผิดปกติ แต่อาจมีรายงานเหตุเล็กน้อยบางประการ ซึ่งยังไม่ถือเป็นภัยคุกคามต่อประเทศ
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการให้กำลังใจทหารในพื้นที่ นายอนุทินกล่าวว่า ตนรู้สึกเห็นใจและชื่นชมกำลังพลทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน ซึ่งเชื่อว่าพี่น้องประชาชนชาวไทยต่างซาบซึ้งและขอบคุณในความเสียสละของทหารทุกคน โดยจากการลงพื้นที่พบว่ากำลังพลส่วนใหญ่เป็นทั้งทหารเกณฑ์และทหารอาสา เปรียบเสมือนลูกหลานของตนเอง ทุกคนยังมีขวัญและกำลังใจที่ดี แม้อาจคิดถึงบ้านบ้าง
นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า ได้ให้คำมั่นในเรื่องสวัสดิการและสวัสดิภาพของกำลังพล เพื่อเป็นการตอบแทนความเสียสละในการปกป้องประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ซึ่งถือเป็นภารกิจที่น่ายกย่องและสมควรได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด
เมื่อถามถึงนโยบายการสร้างรั้วหรือกำแพงตามแนวชายแดน หากพรรคภูมิใจไทยกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง นายอนุทินระบุว่า เป็นนโยบายที่พรรคได้เสนอมาโดยตลอด โดยกำแพงหมายถึงสิ่งปลูกสร้าง ขณะที่รั้วหมายถึงความเข้มแข็งของกองทัพไทย ซึ่งต้องมีความมั่นคง แข็งแกร่ง และไม่เปิดช่องให้ฝ่ายใดเข้ามาคุกคามได้โดยง่าย
ในฐานะวิศวกร เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ในการก่อสร้างกำแพงบริเวณเนิน 350 นายอนุทินกล่าวว่า การดำเนินการจะเป็นไปตามจุดที่กองทัพกำหนดไว้แล้ว พร้อมยืนยันว่ากองทัพได้มีการจัดสรรงบประมาณรองรับไว้ หากจุดใดมีความจำเป็นเพิ่มเติมก็สามารถขอรับการสนับสนุนได้ เนื่องจากเป็นฉันทามติร่วมกันเพื่อความมั่นคงของประเทศ
สำหรับความเชื่อมั่นต่อการหยุดยิงกับกัมพูชา นายอนุทินกล่าวว่า กองทัพไทยมีเจตนารมณ์ชัดเจนในการสถาปนาอธิปไตยและความมั่นคงบนดินแดนของไทย ซึ่งสามารถดำเนินการได้ครบถ้วน พร้อมย้ำว่าไม่ควรใช้คำว่า “ยึด” เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นแผ่นดินของประเทศไทยอยู่แล้ว เป็นเพียงการกลับไปแสดงอธิปไตยให้ประจักษ์ชัดว่าเป็นของคนไทย
เมื่อถามว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชนหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การปกป้องอธิปไตยเป็นหน้าที่ที่ต้องทำโดยไม่ขึ้นกับช่วงเวลาใด หากแผ่นดินไทยถูกล่วงละเมิด ก็จำเป็นต้องดำเนินการอย่างเหมาะสม ซึ่งขณะนี้ทุกหน่วยงาน ทั้งกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และอาสาสมัคร ได้ร่วมมือสนับสนุนกันอย่างเต็มที่ จนสามารถนำแผ่นดินของคนไทยกลับคืนมาได้
ส่วนกรณีความเสียหายของปราสาทตาควาย นายอนุทินกล่าวว่า การรักษาอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ส่วนสิ่งปลูกสร้างหรือโบราณสถานที่ได้รับความเสียหายสามารถบูรณะภายหลังได้ โดยได้หารือกับนางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และกรมศิลปากร ซึ่งยืนยันว่าการบูรณะสามารถดำเนินการได้ แต่สิ่งสำคัญในขณะนี้คือการนำดินแดนทุกตารางนิ้วของประเทศไทยกลับคืนมาให้ครบถ้วน
