หน้าแรกNEWS‘อิทธิพร’แจง‘คดีฮั้วสว.’เดินตามขั้นตอน ยัน‘กกต.’ทำงานอิสระ-เมินกระแสกดดัน

‘อิทธิพร’แจง‘คดีฮั้วสว.’เดินตามขั้นตอน ยัน‘กกต.’ทำงานอิสระ-เมินกระแสกดดัน

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ประธาน กกต. เผยความคืบหน้าคดีฮั้วเลือก สว. ระบุสำนวนส่งถึงสำนักงานแล้ว พร้อมเข้าสู่กระบวนการพิจารณานานหลายเดือน ย้ำทุกขั้นตอนเป็นความลับ และ กกต. ทำงานตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ไม่ได้เร่งรัดหรือแทรกแซงการทำงานใดๆ พร้อมยืนยันคณะกรรมการทุกคนยึดมั่นความเป็นกลางทางการเมือง ไร้แรงกดดันจากทุกฝ่าย

เมื่อวันที่ 18 ก.ค.68 ที่โรงแรมเซ็นทราไลฟ์ ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ว่า คณะกรรมการสืบสวนไต่สวน ชุดที่ 26 ได้ดำเนินการทำสำนวนเสร็จสิ้น และส่งเรื่องไปยังสำนักงาน กกต. เพื่อพิจารณา วิเคราะห์ และศึกษาความเห็นต่อไป

นายอิทธิพร ชี้แจงถึงขั้นตอนการทำงานว่า สำนักงาน กกต. จะใช้เวลา 60 วันในการวิเคราะห์และให้เลขาธิการ กกต. แสดงความเห็น ก่อนจะเสนอไปยังคณะอนุกรรมการวินิจฉัยปัญหาหรือข้อโต้แย้ง ซึ่งมีเวลาพิจารณาไม่เกิน 90 วัน และเมื่อผ่านขั้นตอนดังกล่าวแล้ว เรื่องจะถูกเสนอเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ กกต. ซึ่งจะใช้เวลาพิจารณาอีกไม่เกิน 90 วันเช่นกัน

ประธาน กกต. กล่าวย้ำว่า ผลการสืบสวนไต่สวนของคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ถือเป็นความลับ ส่วนกระแสข่าวที่มีผู้ที่อาจถูกดำเนินคดีมากถึง 229 คนนั้น เป็นเพียงข่าว และ กกต.จะพิจารณาตามขั้นตอนปกติ ไม่ได้มีนโยบายพิจารณาเป็นพิเศษ และไม่สามารถแทรกแซงใด ๆ ได้

เมื่อถามถึงความจำเป็นในการตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยพิเศษ นายอิทธิพร กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว เนื่องจากไม่ได้เป็นไปตามระเบียบ และจะต้องมีเหตุผลสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งขณะนี้ กกต. ยังไม่มีความตั้งใจที่จะทำเช่นนั้น นอกจากจะดำเนินการตามระเบียบที่วางไว้

สำหรับกรณีที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) มองว่า ข้อกล่าวหาของหลายคนในคดี มีความคล้ายคลึงกัน อาจนำไปสู่ความไม่เป็นธรรมนั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า นั่นเป็นความเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่เมื่อมอบหมายให้คณะกรรมการสืบสวนไต่สวนไปแล้ว ที่เหลือก็เป็นไปตามขั้นตอน ไม่ได้มีข้อยกเว้นใด ๆ ซึ่งความเห็นในระดับต่าง ๆ สามารถวิพากษ์วิจารณ์กันได้ และกระบวนการจะดำเนินต่อไปโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ประธาน กกต. ยังได้ปฏิเสธกระแสที่มองว่า เรื่องนี้ถูกเร่งดำเนินการ เพราะพรรคภูมิใจไทยได้ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว โดยยืนยันว่า กกต. ปฏิบัติหน้าที่ตามกระบวนการ และไม่อยู่ภายใต้แรงกดดันใดๆ ทั้งสิ้น

ส่วนเรื่องของความเชื่อมั่นจากประชาชนถึงความเป็นกลางทางการเมืองของ กกต. ในคดีนี้ นายอิทธิพร กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของ กกต. ที่คณะกรรมการแต่ละคน จะต้องธำรงไว้ซึ่งความเป็นกลาง และมีพฤติกรรมที่ไม่แสดงออกถึงการอยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมือง โดยที่ผ่านมา จุดมุ่งหมายคือการทำให้ถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายมากที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นการลงสมัคร สว. เพื่อไปเลือก สว. ด้วยกัน ว่ากฎหมายห้ามไว้หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังไม่ขอด่วนให้ความเห็น ต้องพิจารณาจากสำนวนก่อน และในประเด็นการลดระยะเวลาการไต่สวนนั้น หากจะทำจะต้องมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เช่น กรณีที่มีข้อจำกัดด้านเวลาเกี่ยวกับสิทธิในการสมัครเลือกตั้ง ที่อาจทำให้ผู้สมัครหมดสิทธิ์ได้ หากข้อเท็จจริงที่ได้จากคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน มีความชัดเจนเพียงพอ อาจกระทำได้ในลักษณะนี้ แต่ที่ผ่านมา กกต. ได้ปฏิบัติตามระเบียบการสืบสวนไต่สวนอย่างเคร่งครัดเสมอ

ส่วนกรณีที่พรรคภูมิใจไทยมีการฟ้องร้องคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนชุดที่ 26 นั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า กกต. จะพิจารณาเช่นเดียวกับทุกครั้ง โดยดูรายละเอียดและความเห็นจากคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน รวมถึงความเห็นจากเลขาธิการ กกต. ที่ส่งขึ้นมา ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นเอกฉันท์เสมอไป เมื่อเรื่องมาถึงที่ประชุมก็จะมีการถกเถียงกันบนพื้นฐานของความเห็นและสำนวน และขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละคน ว่าจะวินิจฉัยอย่างไร ซึ่งบางครั้งก็อาจออกมาเป็นฉันทามติเอกฉันท์ หรือมีคะแนนเสียง 3:3, 4:2, หรือ 5:1 ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละท่าน.

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_img