“พร้อมพงศ์”แสดงความคิดเห็นถึงวิสัยทัศน์ของนายทักษิณ ชินวัตร ว่าเป็นแนวคิดที่ทันสมัยและมีประโยชน์ต่อสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมฝากเตือนฝ่ายค้านรุ่นใหม่อย่าหวังทำการเมืองด้วยการโจมตีอย่างเดียว แต่ควรแยกแยะประโยชน์เพื่อส่วนรวม และให้ความเคารพกระบวนการทางกฎหมาย
เมื่อวันที่ 19 ก.ค.68 นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นำเสนอวิสัยทัศน์ในเวทีเสวนา ‘ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก’ ว่า แนวคิดที่นายทักษิณนำเสนอนั้นยังคงทันสมัยและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างมาก บางแนวคิดเคยได้รับการพิสูจน์ความสำเร็จมาแล้วตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย ต่อยอดมาจนถึงพรรคเพื่อไทย
แม้ท่านจะไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองโดยตรงในปัจจุบัน แต่ด้วยประสบการณ์ในการเป็นนายกรัฐมนตรีถึงสองสมัย และการพบปะกับผู้นำระดับโลก นักธุรกิจต่างประเทศ ทำให้มีมุมมองและความรู้ใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาใช้แก้ไขสถานการณ์ในประเทศได้จริง
นายพร้อมพงศ์ ยังแสดงความห่วงใยต่อนักการเมืองฝ่ายค้านรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่ยังคงใช้วิธีโจมตีอย่างรุนแรงเพียงเพราะเห็นชื่อ “ทักษิณ” โดยไม่แยกแยะเนื้อหาในแนวคิด ว่าหากเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและภาคธุรกิจ ควรลดท่าทีเชิงลบและนำเสนอในเชิงวิชาการมากกว่า
กรณีที่ น.ส.ศิริกัญญา ตอบโต้คำพูดของนายทักษิณ ซึ่งกล่าวว่า ความขัดแย้งในประเทศเกิดจากความไม่รักกันและไปโฟกัสเรื่องไม่สำคัญ พร้อมเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น นายพร้อมพงศ์ เห็นว่าเป็นการค้านที่ไร้สาระ และหวังว่าพรรคประชาชนจะใจเย็นและให้ความเคารพกระบวนการยุติธรรม หลังจากที่ น.ส.แพทองธาร ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบข้อกล่าวหาในชั้นศาลรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงข้อวิจารณ์ที่ น.ส.ศิริกัญญา มีต่อรัฐมนตรีเงาที่ไม่มีประสบการณ์บริหารประเทศ โดยเปรียบเทียบว่าการเปรียบเทียบกับนายกรัฐมนตรีสองสมัยนั้น เหมือน “มวยคนละรุ่น” พร้อมฝากให้ฝ่ายค้านหันมาใส่ใจปัญหาภายในพรรคตนเองมากกว่ารัฐบาล
“พรรคประชาชนควรให้ความสำคัญกับสถานภาพ ส.ส.ที่อาจได้รับผลกระทบจากการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยในจำนวน 44 ส.ส.ก้าวไกลที่เคยเสนอแก้ไขนั้น มีถึง 25 คนที่ปัจจุบันเป็น ส.ส. พรรคประชาชน ซึ่งต้องวางแผนรับมือเรื่องนี้ให้ดี” นายพร้อมพงศ์ กล่าวปิดท้าย.
