“พิชัย” นั่งหัวโต๊ะประชุมนบข.พิจารณามาตรการดูแลข้าวเปลือกชุดใหญ่ ทั้งนาปี-นาปรัง หลังผลผลิตสูงขึ้นส่งผลให้ราคาข้าวตกต่ำ เผยส่งออกข้าว 5 เดือน อยู่ที่ 3 ล้านตัน ลดลง 25.7% คิดเป็นมูลค่า 1,878 ล้านดอลลาร์ ลดลง 30.1%
รายงานข่าวแจ้งว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง จะเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อพิจารณาแนวทางและมาตรการดูแลข้าวเปลือกชุดใหญ่ ซึ่งมีทั้งข้าวนาปรังที่ออกไปแล้ว และข้าวนาปีที่จะเริ่มทยอยออกตั้งแต่เดือนต.ค.68 ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีผลผลิตสูงขึ้น และราคาลดลง เนื่องจากปีนี้ไทยส่งออกข้าวได้น้อยลงทั้งด้านปริมาณ และราคา หลังอินเดีย ผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลกกลับมาส่งออกอีกครั้ง
โดยการพิจารณาวาระสำคัญคือ มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังปี 68 ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ ซึ่งขณะนี้กรมส่งเสริมการเกษตร เปิดให้ลงทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังปี 68 เสร็จสิ้นไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.68 พบว่ามีชาวนาเข้ามาลงทะเบียนกว่า 8 แสนครัวเรือน สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมีผู้ปลูกข้าวนาปรังเพียงกว่า 3 แสนครัวเรือน ส่งผลให้งบประมาณในการจ่ายช่วยเหลือที่ นบข.เคยอนุมัติไว้ก่อนหน้านี้ตั้งแต่เดือนก.พ.วงเงินกว่า 2,867 ล้านบาท ไม่เพียงพอ เพราะจากยอดลงทะเบียนอาจใช้เงินสูงกว่าเดิม 2-3 เท่าตัว
ดังนั้นต้องรอนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นคณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการผลิต และดูแลการเปิดลงทะเบียน ทำการตรวจสอบคุณสมบัติเกษตรอีกครั้งว่าถูกต้องหรือไม่ และสรุปเหลือกี่ราย ก่อนเสนอให้ นบข.ตัดสินใจ โดยปัจจุบันมีงบเหลือจากโครงการแจกไร่ละพันช่วงนาปีของปีนี้มากกว่า 4,000 ล้านบาท
ส่วนมาตรการช่วยเหลือข้าวนาปีที่จะทยอยออกตั้งแต่เดือนต.ค. จะมีสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี เพื่อให้เกษตรกรเก็บข้าวเปลือกไว้ในยุ้งฉางรอการขายในช่วงที่ผลผลิตออกน้อยจะได้ขายได้ราคาสูง มาตรการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก เพื่อรอการขาย และตลาดนัดข้าวเปลือก
โดยสิ่งที่น่าจับตาคือการพิจารณามาตรการพยุงราคาข้าวเปลือกนาปี ซึ่งจะมีการพิจารณาข้อเสนอของกรรมาธิการ และ ส.ส.ที่อยากให้นำนโยบายประกันรายได้ ข้าวเปลือก หรือมาตรการพยุงราคาอื่นที่เหมาะสมกลับมาใช้ สำหรับรองรับปริมาณข้าวที่ออกมาสู่ตลาดมากและราคาจะตกลงจากปีก่อนอย่างชัดเจน เห็นได้จากยอดส่งออกในปีนี้ที่ติดลบต่อเนื่องทั้งปริมาณและราคา ขณะที่ราคาข้าวเปลือกเจ้าปัจจุบันอยู่ที่ตันละ 7,400-7,500 บาท ต่ำกว่าปีที่แล้วสูงเกิน 10,000 บาท
สำหรับสถานการณ์การส่งออกข้าวไทยในเดือน พ.ค.68 อยู่ที่ 656,952.2 ตัน ลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีมูลค่าส่งออกข้าวอยู่ที่ 396 ล้านดอลลาร์ ลดลง 9.9% ส่งผลให้ช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ค.68) ไทยส่งออกข้าวได้ 3 ล้านตัน ลดลง 25.7% คิดเป็นมูลค่า 1,878 ล้านดอลลาร์ ลดลง 30.1%





































