“พล.อ.อ.จอม” ลงพื้นที่ติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในเขตพื้นที่จังหวัดลพบุรี พร้อมแจ้งให้ราษฎรทราบโครงการอ่างเก็บน้ำวังตะโกเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริแล้ว
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี ในฐานะรองประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคกลาง และคณะเดินทางไปยังเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จังหวัดลพบุรี โดยรับฟังรายงานสรุปผลการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคกลาง การสนับสนุนการดำเนินงานโครงการเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จากผู้แทนสำนักงาน กปร.
ปัจจุบันพื้นที่ภาคกลางมีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประกอบด้วยโครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำ ด้านการเกษตร ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 808 โครงการ โดยเฉพาะโครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำมีจำนวนทั้งสิ้น 523 โครงการ สำหรับจังหวัดลพบุรี มีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้งสิ้น 30 โครงการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการด้านพัฒนาแหล่งน้ำถึง 26 โครงการ
สำหรับโครงการเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นโครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำขนาดใหญ่ สร้างขึ้นตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2532 เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำให้กับพื้นที่เพาะปลูกของลุ่มน้ำป่าสัก และลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง รวมถึงยังช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมและน้ำเน่าเสียให้กับกรุงเทพฯ นับตั้งแต่เขื่อนได้ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2542 สามารถบรรเทาความเสียหายจากอุทกภัย คิดเป็นมูลค่าจำนวน 471.95 ล้านบาทต่อปี และแก้ไขปัญหาอุทกภัยได้ถึง 10 ครั้ง
นอกจากนี้ยังเกิดผลสัมฤทธิ์ในด้านต่าง ๆ อาทิ การแก้ปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม การประกอบอาชีพเกษตรกรรม และยังเป็นแหล่งประมงน้ำจืดขนาดใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ซึ่งจากการสำรวจพบว่า มีพันธุ์ปลาที่หลากหลาย ประมาณ 130 ชนิดพันธุ์ ก่อให้เกิดอาชีพประมงน้ำจืดสร้างรายได้อันเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของราษฎร นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดลพบุรี ที่สร้างรายได้ให้กับราษฎรได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น
จากนั้น องคมนตรีและคณะ ได้นั่งรถรางเยี่ยมชมบริเวณสันเขื่อนโดยรอบโครงการฯ รวมถึงการปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสัก พร้อมกับร่วมปล่อยปลาและปลูกต้นรวงผึ้ง เพื่อเป็นที่ระลึกในพื้นที่โครงการฯ อีกด้วย
ต่อมาในช่วงบ่าย องคมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปยังพื้นที่ก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำวังตะโกอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลโคกแสมสาร อำเภอโคกเจริญ จังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ รับเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2563 ตามที่ราษฎรบ้านใหม่ศรีอุบลร้องขอ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนขาดแคลนน้ำสำหรับทำการเกษตรและปัญหาอุทกภัย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่จากกรมป่าไม้ และอยู่ระหว่างการออกแบบก่อสร้างอ่างเก็บน้ำจากกรมชลประทาน
พล.อ.อ.จอม กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากคณะองคมนตรี และ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการพระราชดำริภาคกลางให้มาแจ้งกับราษฎรทราบว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯรับโครงการอ่างเก็บน้ำวังตะโกไว้เป็นโครงการพระราชดำริเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เดือน ก.ย.63 ถือว่าเร็วมากเมื่อเทียบกับโครงการพระราชดำริที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มา เชื่อว่า ปี 64 เปิดงานได้และหลังฝนปี 64 -65 ราษฎรที่นี้ได้ใช้น้ำแน่นอน
เมื่อมีน้ำแล้วจะทำอะไรก็ได้ ฉะนั้นผมเชื่อว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพยายามสร้างชุมชนผู้ใช้น้ำขึ้นมาแน่นอน ขอให้ทุกคนสามัคคี ช่วยกันดูแลรักษาเพราะเป็นทรัพย์สินของท่าน ให้ทุกฝ่ายร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นการอนุญาตใช้พื้นที่จะถูกดำเนินการ การใช้งบประมาณจะเริ่มทันทีในเดือน ก.พ.และต้องเสร็จแน่ในปีนี้
องคมนตรี กล่าวว่า ฝนลงมาก่อนเดือน ส.ค.น้ำต้องเต็ม เมื่อน้ำเต็มจากนี้เป็นต้นไป จะมีน้ำใช้พอเพียงและยั่งยืน ไปตลอดขาติ จนกว่าท่านจะไม่ยอมมาร่วมดูแลพื้นที่ให้มันดีกว่า กับอีกส่วนหนึ่ง เมื่อเวลาผ่านไปแล้วทุกท่านที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งส่วนราชการและประชาชนต้องช่วยกันดูแล กับส่วนหนึ่งจะมีแผนทำการประมงน้ำจืด ตนคิดว่าดีมาก การทำประมงน้ำจืดเป็นการทำประมงพื้นบ้าน ระมัดระวังนายทุนเข้ามาซื้อชาวบ้านแล้วยึดครองพื้นที่ เพราะพื้นที่นี้เป็นของพวกเราทุกคนจะไม่เป็นของคนใดคนหนึ่ง
“ฝากไว้ว่าการใช้น้ำอย่าทะเลาะกัน แบ่งปันกัน เอื้ออาทรต่อกัน เป็นธรรมชาติของสังคมไทย ในหลวง ร.10 ทรงมีพระราชปณิธานที่จะสืบสาน รักษาต่อยอด โครงการอันเนื่องจากพระราชดำริทุกโครงการ รวมทั้งโครงการใหม่ๆของในหลวง ร.10 เอง ขอแสดงความยินดีกับราษฎรในพื้นที่ จากนี้ไปจะมีน้ำใช้ตลอดทั้งปี ประโยชน์ที่ได้คิดว่าเกินที่จะพูดถึง การมีน้ำทำให้ทำอย่างที่ใจนึกได้เสมอ ยืนยันว่า ในหลวง ร.10 มุ่งมั่นให้ประชาชนมีความสุข ประเทศชาติมั่นคง ผม ไม่ได้มาสั่ง เพียงแต่ให้ทุกคนรักกันไว้และสามัคคีกันมากๆ” พล.อ.อ.จอม กล่าว
จากนั้นองคมนตรีได้พบปะพูดคุยกับราษฎรในพื้นที่โครงการฯ นำมาซึ่งความปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงห่วงใยในความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนโดยทรงรับโครงการฯ และให้สำนักงาน กปร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับความสุขความเจริญต่อไป.