“คีรี”ยันเดินหน้าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก เหตุล่าช้ารอความชัดเจนจาก EEC เรื่องสิทธิประโยชน์การลงทุน ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานและภาษี
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งเป็นโครงการที่บีทีเอสถือหุ้นในบริษัทอู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) ร่วมกับผู้ถือหุ้นอีก 3 บริษัท ได้แก่บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ว่า ยังเดินหน้าต่อ แม้ว่าจะมีการลดขนาดโครงการลงให้เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
โดยยอมรับว่าโครงการมีความล่าช้ามาอย่างมากหลังจากมีการประมูลโครงการมาเมื่อ 5 ปี 5 เดือน ที่ผ่านมาก็ยังไม่สามารถเดินหน้าก่อสร้างได้ตามแผนได้ เพราะว่ายังติดเงื่อนไข โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่ยังไม่มีความชัดเจนจึงไม่ได้มีการออกหนังสือให้เริ่มงาน (NTP: Notice to Proceed) ได้
ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อเร่งรัดให้มีการสรุปเรื่องของสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ซึ่งต้องมีความชัดเจนว่าในโครงการจะมีอะไรบ้างจะได้สามารถให้รายละเอียดกับนักลงทุนที่จะดึงเข้ามาสร้างเมืองการบินในพื้นที่นี้ได้โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟความเร็วสูง ทางด่วน อาคารผู้โดยสารที่รองรับผู้โดยสาร 12 ล้านคนต่อปี
รวมทั้งเรื่องของสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ เพื่อให้สามารถออกไปโรดโชว์ดึงการลงทุนเข้ามาในพื้นที่ได้ เพราะการทำเมืองการบินนั้นประเทศไทยต้องเทียบเคียงกับประเทศอื่นๆในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ เวียดนาม หรือจีน โดยผลตอบแทนการลงทุนที่ มีภาคเอกชนรับรู้ตัวเลขผลตอบแทนทางการลงทุน (IRR) ที่ 10.2% ทั้งนี้เชื่อว่าหากมีความชัดเจนในส่วนนี้จะมีการลงทุนตามมาอีกกว่า 2 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในเดือน ธ.ค.นี้ต้องมาสรุปรายละเอียดต่างๆว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง
ส่วนเรื่องหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น บริษัทได้รับการชำระหนี้ ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (O&M) ที่ กทม.ค้างชำระบริษัทรวมทั้งสิ้น 36,444 ล้านบาท นี้ ประกอบด้วยเงินต้น 31,482 ล้านบาท และดอกเบี้ย 4,962 ล้านบาท ทั้งนี้ กทม.ได้มีการเจรจาลดดอกเบี้ย และบริษัทมีการลดให้ประมาณ 200 ล้านบาท เนื่องจาก กทม.ตกลงที่จะจ่ายตามกำหนดเส้นตายที่ได้มีการตกลงกันไว้วันที่ 31 ต.ค. 68



















