นายกรัฐมนตรีเผยผลประชุมอาเซียนและเอเปกได้รับการตอบรับอย่างดีจากนานาชาติ พร้อมขอบคุณทีมเศรษฐกิจที่ผลักดัน “คนละครึ่งพลัส” ชี้ช่วยสร้างความคึกคักในระบบเศรษฐกิจ เดินหน้าขยายผลสู่เฟส 2 ดูแลกลุ่มเปราะบางเข้าถึงสิทธิ์อย่างทั่วถึง
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 พ.ย. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 3/2568
นายอนุทินกล่าวช่วงต้นการประชุมว่า จากการเข้าร่วมประชุมอาเซียนที่ประเทศมาเลเซีย และประชุมเอเปกที่ประเทศเกาหลีใต้ รัฐบาลได้ใช้โอกาสดังกล่าวในการนำเสนอนโยบายด้านเศรษฐกิจของไทยต่อผู้นำประเทศต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อขยายโอกาสทางเศรษฐกิจ การลงทุน และเปิดตลาดใหม่ให้กับสินค้าไทย ซึ่งไทยได้รับการตอบรับอย่างดีและมีเรื่องที่ต้องสานต่อจำนวนมาก โดยรัฐบาลเดินหน้านโยบายเศรษฐกิจ “Quick Big Win” เพื่อให้เห็นผลในระยะสั้น สร้างประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ประเทศคู่เจรจาหลายแห่งมองไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพและเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ พร้อมแสดงความมั่นใจต่อบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวให้ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ
ในส่วนของนโยบายภายในประเทศ นายอนุทินกล่าวขอบคุณนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่เริ่มดำเนินโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากประชาชนทั่วประเทศ ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและสร้างความคึกคักให้ระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในระดับท้องถิ่น
นายอนุทินกล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลเตรียมเดินหน้าสู่เฟส 2 ของโครงการ โดยมุ่งเน้นให้กลุ่มประชาชนที่ยังเข้าไม่ถึงสิทธิ์ โดยเฉพาะกลุ่มชายขอบและกลุ่มเปราะบาง ได้รับการช่วยเหลืออย่างทั่วถึง พร้อมมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่อให้คำแนะนำประชาชนในการเข้าถึงสิทธิ์
สำหรับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และไฟฟ้าชุมชน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และขอให้กระทรวงพลังงานเร่งขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม พร้อมกำชับให้ทุกกระทรวง โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะมันสำปะหลังที่ชาวบ้านกำลังได้รับผลกระทบ
นายอนุทินย้ำว่า รัฐบาลจะเดินหน้านโยบาย Quick Big Win อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง
