จากวันนั้นถึงวันนี้ ย้อนศร “ธนาธร” หลังไม่กี่เดือนก่อน ออกโรงซัดกระบวนการยุติธรรมไทยมี 2 มาตรฐานในคดีบอสกระทิงแดง ที่ “คนรวยทำผิดไม่ต้องติดคุก” แต่มาถึงวันนี้กลับเงียบกริบในคดีน้องชายติดสินบน 20 ล้านบาท ทั้งที่คำพิพากษาระบุชัดถึงพฤติกรรมว่ากระทำผิดจริง
เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสังคมออนไลน์มีการแชร์ภาพ และถ้อยคำที่เป็นความคิดเห็นของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ต่อกรณีของนายวรยุทธ หรือ “บอส” อยู่วิทยา ในคดีที่ขับรถชนดาบตำรวจเสียชีวิต แต่อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ทำความเห็นแย้งว่า โดยมีการนำคำพูดของนายธนาธร เมื่อวันที่ 25 ก.ค.63 ที่ผ่านมา ซึ่งนายธนาธรไลฟ์สดจากจังหวัดพิษณุโลก ในรายการ “ก้าวหน้า Talk : คุณถาม เราตอบ” ช่วงหนึ่งกล่าวถึง คดีบอสอยู่วิทยา ว่า ประเทศไทยเป็นที่ที่น่าอยู่มากสำหรับ VIP หรือคนรวยและคนมีอำนาจ แต่สำหรับคนธรรมดา คนที่หาเช้ากินค่ำ ประเทศนี้ไม่มีความเป็นธรรมสำหรับพวกเขา นี่คือสองมาตรฐานในกระบวนการยุติธรรมที่ชัดเจน
นายธนาธร กล่าวต่อว่า ความสำคัญของกระบวนการยุติธรรม คือการเป็นหลักประกันของความเสมอภาคและการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในสังคม แต่ถ้าระบบยุติธรรมของสังคมไหนล่มสลายไปแล้ว สังคมนั้นจะไม่มีที่พึ่งและประชาชนจะไม่มีทางออก ในวันที่ศรัทธาในองค์กรทางการเมืองทั้งหมดเสื่อมลง อย่างน้อยที่สุดหากกระบวนการยุติธรรมยังศักสิทธิ์อยู่คนจะยังมีความหวัง แต่ถ้าสังคมสูญสิ้นซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรม ความขัดแย้งจะหาทางออกโดยสันติไม่ได้
“นั่นคือสิ่งที่น่ากลัว เมื่อเราเอาความยุติธรรมมาถือฝักฝ่ายทางการเมือง มาทำให้กลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง อภิสิทธิ์ชนในสังคมไทยไม่ต้องรับผิดรับชอบกับการกระทำของพวกเขา แล้วปล่อยให้คนเล็กคนน้อยติดคุกติดตาราง อันนี้น่ากลัวมาก ก็หวังว่ากรณีนี้จะเป็นกรณีที่พิสูจน์ความจริงใจของรัฐบาลชุดนี้ ว่ารัฐบาลชุดนี้จะเอาจริงเอาจังกับการหาคนผิดมาลงโทษจริงหรือไม่” นายธนาธรกล่าวในวันนั้น
ทั้งนี้ในสังคมออนไลน์ได้ตั้งคำถามกับนายธนาธรว่า วันนั้น นายธนาธรเคืองคดีบอส และระบุว่า “คนรวยทำผิดไม่ติดคุก” แต่วันนี้ ทำไมนายธนาธร ถึงเงียบกริบ ไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ ในกรณีน้องชาย คือนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด จ่ายเงินติดสินบนจำนวน 20 ล้านบาทให้กับ “นายประสิทธิ์ อภัยพลชาญ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายโครงการพิเศษ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (ชื่อเดิม) และ “นายสุรกิจ ตั้งวิทูวนิช” เพื่อให้บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ได้สิทธิการเช่าระยะยาวที่ดินบริเวณองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ชิดลม) ซึ่งเป็นทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ โดยมีค่าตอบแทนจำนวน 500 ล้านบาท เพื่อไม่ต้องผ่านการประมูลแข่งขันตามขั้นตอนปกติ ซึ่งทั้งนายประสิทธิ์ และนายสุรกิจ ถูกศาลตัดสินให้มีความผิดและถูกจำคุก แต่นายสกุลธร น้องชายนายธนาธร ซึ่งในคำพิพากษาหน้า 9 บรรทัดที่ 10 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีหมายเลขดำที่ อท 76/2562 คดีหมายเลขแดงที่ อท 228/2562 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ระบุชัดเจนถึงพฤติกรรมของนายสกุลธร ว่าเป็นผู้กระทำความผิดที่ได้ให้เงิน 20 ล้านบาท แต่กลับยังไม่ได้ถูกเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีแต่อย่างใด