“สุชัชวีร์” เผยเตรียมส่งผู้สมัคร สส. ครบทุกภาค เน้นคัดคนมีอุดมการณ์จริง ไม่เน้นจำนวน ย้ำจะสร้างพรรคให้เป็น “สถาบันทางการเมือง” ที่ยั่งยืน ไม่ฉาบฉวย พร้อมชูการศึกษาคุณภาพเป็นหัวใจแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ และประกาศจุดยืน “ทำงานร่วมได้ทุกพรรค เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ”
เมื่อวันที่ 7 พ.ย.68 ที่อาคารไอ ทาวเวอร์ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ “ดร.เอ้” หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ว่า ขณะนี้มีผู้สนใจจากทุกภูมิภาคเข้ามาสมัครจำนวนมาก พรรคจึงตั้งใจจะส่งผู้สมัครในทุกภาคทั่วประเทศ โดยจะให้ความสำคัญกับ “คุณภาพ” ของผู้สมัครมากกว่าจำนวน
นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ตนจะสัมภาษณ์ผู้สมัครด้วยตัวเองทุกพื้นที่ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นผู้ที่มีอุดมการณ์และตั้งใจเข้ามาทำงานการเมืองเพื่อประเทศอย่างแท้จริง ส่วนจะส่งครบทั้ง 400 เขตหรือไม่นั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา แต่ยืนยันว่าพรรคไม่ได้วางเป้าหมายเรื่องจำนวนที่นั่ง ส.ส. ไว้แน่นอน เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือการได้รับโอกาสจากประชาชนเพื่อทำงานให้ประเทศ และสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างให้เกิดขึ้นจริง
เมื่อถามถึงนโยบายด้านการพัฒนา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายสุชัชวีร์เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นของประชาชน พบว่าความต้องการสำคัญคือ “การได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ” เพราะแม้รัฐจะจัดการศึกษาฟรี แต่หากไร้คุณภาพก็ไม่ก่อให้เกิดความเท่าเทียม พรรคไทยก้าวใหม่จึงยึดมั่นที่จะยกระดับคุณภาพการศึกษา เพื่อให้ลูกหลานในพื้นที่สามารถเข้าถึงการเรียนรู้จนถึงระดับอุดมศึกษาได้จริง
ส่วนประเด็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายสุชัชวีร์ ระบุชัดว่า หัวหน้าพรรคจะต้องเป็นผู้พร้อมและรับผิดชอบในตำแหน่งนี้เอง เพื่อสะท้อนความเป็นผู้นำและความพร้อมทางการเมืองอย่างแท้จริง
สำหรับแนวทางการจับมือกับพรรคการเมืองอื่น นายสุชัชวีร์ กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา การเมืองไทยติดอยู่ในวงจรของการแบ่งขั้ว พรรคไทยก้าวใหม่จะไม่เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งนั้น แต่พร้อมทำงานร่วมกับทุกพรรคที่ต้องการสร้างสรรค์การเปลี่ยนแปลงให้ประเทศ”
นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า พรรคไทยก้าวใหม่จะไม่เป็นพรรคการเมืองชั่วคราวหรือเกิดขึ้นเพียงเพื่อการเลือกตั้งรอบนี้เท่านั้น แต่จะเป็น “สถาบันทางการเมือง” ที่เปิดกว้างให้คนทุกกลุ่มได้เข้ามาร่วมพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนและมีจุดยืนเพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก.





































