“ภราดร” เผยนายกฯ เรียกถกด่วนระบายน้ำลุ่มเจ้าพระยา ชี้เขื่อนใหญ่เต็มทุกแห่ง จ่อเร่งระบายหวั่นน้ำล้น เพิ่มแรงกดดันพื้นที่ลุ่มต่ำ
เมื่อวันที่ 10 พ.ย.68 นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำภาคกลางว่า ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ พล.อ.อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี จะเรียกตนเข้าร่วมประชุมกับกรมชลประทาน เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนแนวทางการระบายน้ำ หลังพบว่าปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่หลายแห่งเต็มความจุ จำเป็นต้องเร่งระบายออก
นายภราดร กล่าวว่า ปัจจุบันเขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำขาเข้ามากกว่าขาออก หากยังคงชะลอการระบายไว้อย่างนี้ คาดว่าในอีกไม่กี่วันปริมาณน้ำจะเกินความจุของเขื่อน จึงจำเป็นต้องเพิ่มอัตราการระบาย ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยเฉพาะจังหวัดนนทบุรีและปทุมธานี ซึ่งขณะนี้เริ่มประสบภาวะน้ำท่วมแล้ว
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ในการประชุมก่อนหน้านี้ ได้มีการเสนอให้ใช้พื้นที่ทุ่งรับน้ำทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกในระบบชลประทาน เพื่อเก็บและหน่วงน้ำไว้ ไม่ให้ไหลลงสู่แม่น้ำทั้งหมด แต่ข้อเสนอนี้ยังไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควร ซึ่งตนยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด ต้องสอบถามไปยังอธิบดีกรมชลประทานอีกครั้งว่า เกิดจากการสั่งการแล้วยังไม่มีการปฏิบัติ หรือยังไม่มีคำสั่งให้ดำเนินการ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงแนวทางการผันน้ำไปทางทิศตะวันตกเข้าสู่แม่น้ำท่าจีน เพื่อแบ่งเบาปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา นายภราดร กล่าวว่า การระบายน้ำควรดำเนินการทั้งสองฝั่ง ทั้งทางตะวันตกและตะวันออก เพื่อกระจายแรงกดดันของน้ำไม่ให้กระทบจุดใดจุดหนึ่งมากเกินไป
“มีชาวบ้านพูดประโยคหนึ่งระหว่างการชุมนุมที่แยกเสนา จ.อยุธยา ว่า การบริหารจัดการน้ำในภาวะวิกฤติแบบนี้ ไม่สามารถบริหารแนวดิ่งได้ ต้องบริหารแนวก้างปลา ซึ่งผมเห็นด้วย เพราะน้ำต้องมีที่หน่วง ที่เก็บในทุ่ง เพื่อช่วยลดความรุนแรงของสถานการณ์” นายภราดร กล่าว
พร้อมกันนี้ นายภราดร ระบุว่า นายกรัฐมนตรีเตรียมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในเร็ว ๆ นี้ แต่ยังไม่ได้กำหนดวันและสถานที่แน่ชัด.
