โฆษกกลาโหมกัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาไทยวางทุ่นระเบิดใหม่ ยืนยันทำตามอนุสัญญาออตตาวา และชี้ว่าทุ่นระเบิดเป็น “เศษซากความขัดแย้งในอดีต” พร้อมเตือนไทยให้หลีกเลี่ยงการลาดตระเวนในพื้นที่เสี่ยงสูงจากทุ่นระเบิดเก่า
วันที่ 11 พ.ย.68 พลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า กระทรวงกลาโหมกัมพูชาเรียกร้องให้ไทยหลีกเลี่ยงการลาดตระเวนในพื้นที่ที่เคยมีการสู้รบและทุ่นระเบิดเก่ามาก่อน โดยเตือนว่า หลายพื้นที่ยังมีความเสี่ยงสูงที่จะพบทุ่นระเบิดเก่า
นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมกัมพูชาขอปฏิเสธข้อกล่าวหาของไทยที่ว่ากัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ด้วย
แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชา มีขึ้น 1 วัน หลังเกิดเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนใกล้เมืองพนมตรอป ใกล้ปราสาทพระวิหารเมื่อวานนี้ ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บ 4 นาย
พลโทหญิงมาลี ยังปฏิเสธรายงานข่าวและคำแถลงของผู้นำระดับสูงของไทยที่กล่าวหากัมพูชาว่า ได้วางทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคล PMN-2 ใหม่ โดยกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่า นับตั้งแต่กัมพูชาเข้าเป็นรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา กัมพูชายังคงปฏิบัติตามหลักการและพันธกรณีของกฎหมายระหว่างประเทศอย่างสมบูรณ์และสม่ำเสมอ
กัมพูชายืนยันว่า ไม่ได้ใช้ หรือวางทุ่นระเบิดใหม่ใดๆ ที่คุกคามความมั่นคงและความปลอดภัยของพลเรือน เป็นความจริงที่ว่า แม้จะมีความพยายามอย่างไม่ลดละในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาในการกำจัดทุ่นระเบิด แต่ทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ซึ่งเป็นเศษซากจากความขัดแย้งในอดีต ยังคงเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงและความปลอดภัยของพลเรือนชาวกัมพูชาในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามแนวชายแดนระหว่างกัมพูชาและประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงประเทศไทย
พลโทหญิวมาลี กล่าวด้วยว่า หลังเหตุการณ์ดังกล่าว กองทัพภาคที่ 4 ของกัมพูชาได้ติดต่อสื่อสารกับกองทัพภาคที่ 2 ของไทยแล้ว และสถานการณ์ยังคงสงบ โดยไม่มีรายงานความตึงเครียดใดๆ
เธอยังกล่าวด้วยว่า กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับไทย เพื่อส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความมั่นคงและความปลอดภัยของพลเรือน ตาม ‘ปฏิญญาร่วม 26 ตุลาคม’






































