หน้าแรกNEWSสิงห์เอสเตทปักหมุด รายได้ธุรกิจโรงแรมโตเด่นช่วงไฮซีซั่นปลายปี

สิงห์เอสเตทปักหมุด รายได้ธุรกิจโรงแรมโตเด่นช่วงไฮซีซั่นปลายปี

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ชัยรัตน์” คาดงบไตรมาส 4/68 เป็นไปตามแผนที่วางไว้ จากการขับเคลื่อนธุรกิจโรงแรม ทั้งในไทยและมัลดีฟส์ พร้อมเร่งปิดโครงการคอนโด ดิ เอส สุขุมวิท 36 คาดสร้างรายได้กว่า 350 ล้านบาทในปีนี้

นายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘S’ เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/68 ยังคงเป็นไปตามแผนการที่วางไว้
โดยสัดส่วนรายได้หลักยังคงขับเคลื่อนมาจากกลุ่มธุรกิจโรงแรม ที่มีแนวโน้มเติบโตและฟื้นตัวจากการเข้าสู่ฤดูกาล การท่องเที่ยวของโรงแรมในประเทศไทยและมัลดีฟส์

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการเสริมสร้างรายได้จากธุรกิจหลักอื่น ควบคู่ไปกับการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการบริหารต้นทุนทางการเงินให้ลดต่ำลง ควบคู่กับการสรรหาแหล่งเงินทุนที่มีความเหมาะสม เพื่อเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจและยกระดับความสามารถในการทำกำไรในระยะยาว

สำหรับประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ของปี 2568     มีรายได้หลักจากการดำเนินงานรวม 3,615 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้ในรอบ 9 เดือน(ม.ค.-ก.ย.) อยู่ที่ 10,480 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์จำนวน 1,882 ล้านบาท และรายได้จากการให้เช่าและการให้บริการจำนวน 8,567 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 นี้ ปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันจากปีก่อน จากระดับ 23% สู่ระดับ 25% เป็นผลจากการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรสุทธิรวมเติบโตขึ้นถึง 405%

“หนึ่งจุดแข็งของสิงห์ เอสเตท คือการมีฐานรายได้ที่แข็งแกร่งจากสัดส่วนหลักที่มาจากรายได้ประจำทั้งจากธุรกิจโรงแรม ธุรกิจอาคารเชิงพาณิชย์ และธุรกิจโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการเสริมเสถียรภาพทางการเงินและสร้างความยั่งยืนในการดำเนินงาน รวมถึงช่วยให้บริษัทสามารถรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่มีความท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

โดยช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ธุรกิจโรงแรมยังคงมีผลการดำเนินงานที่โดนเด่น สามารถรายงานรายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPAR) ได้สูงขึ้นทุกภูมิภาคเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันจากปีก่อน โดยเฉพาะในประเทศไทย ถึงแม้ว่า จะเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวแต่ยังสามารถรายงาน RevPAR เติบโตขึ้นถึง 31% จากไตรมาส 3 ของปี 2567 สู่ระดับ 4,910 บาท โดยแรงขับเคลื่อนหลักยังคงมาจากโรงแรม ทราย ลากูน่า ภูเก็ต ที่ตอกย้ำความสำเร็จของกลยุทธ์ การยกระดับคุณภาพสินทรัพย์ด้วย RevPAR สูงขึ้นกว่า 2 เท่า จากช่วงเวลาเดียวกันจากปีก่อน

ขณะที่กลุ่มธุรกิจอาคารเชิงพาณิชย์ ปัจจุบันยังคงสามารถรักษาระดับอัตราการเช่าเฉลี่ยของสามอาคารหลัก ได้แก่อาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์, ซันทาวเวอร์ส และเอส เมโทร ในระดับ 80% โดยในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาได้ทยอยปิดการขายแก่ผู้เช่าหลัก (Anchor tenants) อย่างต่อเนื่อง คิดเป็นพื้นที่เช่าใหม่ที่สามารถปิดการขายได้กว่า 4,000 ตารางเมตรและมีกำหนดทยอยเข้าใช้พื้นที่ตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปีนี้จนถึงต้นปี 2569 และคาดว่าอาคาร สิงห์ คอมเพล็กซ์ที่เป็นอาคารสำนักงานแฟล็กชิปของบริษัทจะมีอัตราการเช่ากลับมาที่ระดับ 90% อีกครั้งหนึ่ง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อคุณภาพโครงการตลอดจนทำเลศักยภาพที่สามารถตอบโจทย์ทั้งในแง่ของการทำงานและการใช้ชีวิต

ส่วนของธุรกิจที่พักอาศัย โครงการ สริน พรานนก-กาญจนา ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4 เป็นต้นไป ขณะที่โครงการที่วางแผนจะปิดในปีนี้คือ โครงการคอนโด ดิ เอส สุขุมวิท 36 คาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายโดยสร้างรายได้กว่า 350 ล้านบาทในปี 68

ด้านธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม นอกจากที่ดิน 75 ไร่ที่ปิดการขายกับบริษัท Dali Foods Group ก่อนหน้านี้และโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาสที่ 3 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว บริษัทฯ ได้บรรลุข้อตกลงการขายเพิ่มเติมแก่ บริษัท เพียวสตรอง จำกัด จำนวน 9 ไร่ โดยคาดว่าจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ในช่วงไตรมาส 4/68

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES
- Advertisement -spot_imgspot_img

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img