‘อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ’ ยืนยัน ไทยยึดตามคำดีล ‘ทรัมป์-อนุทิน’ ย้ำ เจตจำนงแยกการค้า-ความมั่นคงชัดเจน ภาษีนำเข้าสินค้ายังคงเดิม 19% ยันไทยพร้อมเจรจาต่อเนื่องไม่ขาดช่วง พร้อมเล็งหาตลาดใหม่ควบคู่ ด้าน ’โฆษกรัฐบาล‘ บอก ’อนุทิน‘ เตรียมทำหนังสือถึงสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ย้ำเจตจำนงที่ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับ ’ทรัมป์‘
วันที่ 17 มิ.ย.68 นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีสหรัฐอเมริกาประกาศระงับการเจรจาภาษี จากกรณีที่ไทยระงับ Joint Declaration หลังจากที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงร่วมกัน ว่า อย่างที่ทุกท่านทราบว่า ได้มีการพูดคุยกับสหรัฐฯ ในการเจรจาภาษีการตอบแทนการค้ามาโดยตลอด ซึ่งในช่วงรัฐบาลนี้เข้ามา ก็ยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ มีการพูดคุยกับสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง และจากที่ได้ทราบข้อมูลล่าสุด จากข้อความจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็มีความมั่นใจว่า น่าจะมีเป้าหมายเดียวกับเรา ที่ยังคงยึดมั่นในเดตไลน์เดิมที่ตั้งใจจะเจรจารายละเอียดข้อตกลงที่เกี่ยวกับการค้าการตอบแทนให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้
อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ในฝั่งของประเทศไทย กระทรวงพาณิชย์ได้ติดต่อกันอยู่กับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ หรือ USTR มาโดยตลอด ได้มีการพูดคุยกับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ในการประชุมเอเปค ได้เน้นย้ำมาโดยตลอดว่า ด้านการค้าและความมั่นคง จะต้องแยกกันอย่างชัดเจน โดยในรายละเอียดของข้อตกลง ในประเทศมีการทำงานทำการบ้านอย่างจริงจัง เพื่อที่จะหารือกับสหรัฐฯ อย่างเข้มข้น จัดตั้งคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์โดยมีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นหัวหน้าและประธานในการทำงาน มุ่งมั่นเตรียมพร้อมในการเจรจากับสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง และยึดในเป้าหมายเดิม
ขณะเดียวกัน ยังได้มีการเตรียมผู้ประกอบการ และการเสริมสร้างความสามารถในสินค้าที่มีศักยภาพทางด้านบริการและเรื่องอื่นๆ
รวมไปถึงได้เตรียมหาตลาดใหม่ ทั้งการพูดคุยกับประเทศคู่เจรจาทั้งหลายที่มีอยู่ รายการที่จะต้องมีการขยายตลาดใหม่ในแง่ของการทำข้อตกลงการค้าเสรีฉบับใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ซึ่ง 2 สิ่งนี้ จะต้องมีการเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการในการต่อสู้ ในภาวะการแข่งขันค่อนข้างสูง และมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่จะมีผลกระทบในการทำการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ
พร้อมกับยืนยันว่า ไทยยังคงมุ่งมั่นในเป้าหมายเดิมและทำงานอย่างเต็มที่และหารือทุกภาคส่วนอย่างที่ได้เคยทำมาและจะทำต่อไป ไม่ว่าวัตถุประสงค์ในการเจรจาและผลประโยชน์ ผลกระทบต่างๆ จะต้องถูกนำมาพิจารณาอย่างครบถ้วน และรอบด้าน
เมื่อถามว่า USTR ก่อนหน้านี้เคยมีก็ใช้คำว่าส่งหนังสือหยุดการเจรจาใช่หรือไม่ นางสาวโชติมา ยืนยันว่า ในวันเดียวกันก็มีการพูดคุยระหว่างผู้นำทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยยึดสิ่งที่ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยกัน และเราจะมีการยืนยันกลับไปทาง USTR ว่า จะยังคงเดินหน้าพร้อมเจรจาต่อ
หลังจากที่มีการตกลงเรื่องกรอบกันแล้ว อยู่ระหว่างการหารือในรายละเอียดของข้อตกลง รายการตอบแทน ซึ่งในการเจรจา จะต้องมีการทำงานภายในประเทศด้วยทั้งสองฝ่าย ซึ่งฝ่ายไทย หากมีความพร้อมจะมีการกำหนดวันต่อไป ซึ่งจะต้องมีการสื่อสารกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่จะยังไม่มีการหยุดการทำงาน
เมื่อถามว่า หลังจากนี้ การเจรจาจะไม่มีเรื่องกัมพูชาเข้ามาในการเป็นหนึ่งในข้อตกลงแล้วใช่หรือไม่นางสาวโชติมา กล่าวว่า ตั้งแต่ที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีในรายละเอียดที่จะนำเรื่องความมั่นคง เข้ามาอยู่ในกรอบการเจรจา ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่อยู่ภายนอกของการเจรจา
ด้านโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าหลังจากที่นายกรัฐมนตรีเดินทางกลับมา จะได้ทำหนังสือถึงสหรัฐอเมริกา ถึงเจตจำนงที่นายกรัฐมนตรีจะได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้นำสหรัฐ อย่างเป็นทางการ เพื่อให้เกิดความครบถ้วนตามหลัก
จากนั้น อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า การเจรจายังคงดำเนินการต่อไป แม้ USTR จะแจ้งระงับการเจรจาการค้าและภาษีกับไทยชั่วคราว แต่เราจะไม่รอให้การเจรจาเนิ่นนานไปถึงช่วงปลายปี โดยเราได้ยืนยันกลับไปว่า ทั้งเรื่องความมั่นคงและการเจรจาภาษี ไม่เกี่ยวข้องกัน ส่วนอัตราภาษีสินค้าไทยนำเข้าสหรัฐยังคงอยู่ที่ 19 เปอร์เซ็นต์ และเป้าหมายในสิ้นปีจะแล้วเสร็จทุกอย่าง
เมื่อถามว่าหากการเจรจาไม่สิ้นสุดภายในสิ้นปีนี้จะมีแผนรองรับหรือไม่ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า เรื่องนั้นเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่คิดว่าเราจะต้องทำงานกันต่อไป หากเป็นการเจรจาปกติ พร้อมยืนยันว่าไม่ขาดช่วง
เมื่อถามว่า ไทยจะขอลดอัตราภาษีนำเข้าให้ต่ำกว่า 19% หรือไม่ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่าในฐานะนักเจรจาเราก็ต้องต่อรองเรื่อยๆ อยู่ตลอด พร้อมกับยืนยันว่าท่าที USTR ต่อฝ่ายไทยก็ยังคงเหมือนเดิม



















