ปลัดกระทรวงการคลัง ยืนยันกรมสรรพากรจะดำเนินการเรียกเก็บภาษี 1.76 หมื่นล้านบาทจากนายทักษิณ ชินวัตร ตามคำพิพากษาศาลฎีกา พร้อมสืบทรัพย์และเข้าสู่กระบวนการของกรมบังคับคดี
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์กรณีศาลฎีกามีคำพิพากษากลับเรียกเก็บภาษีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในข้อหาปกปิดการถือหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 1.76 หมื่นล้านบาท ว่า วันเดียวกันนี้กรมสรรพากรจะมารายงานความคืบหน้า แต่การดำเนินการต้องเป็นไปตามขั้นตอน
นายลวรณ ระบุว่า อัยการสูงสุดจะมีการดำเนินการสืบทรัพย์ และนำเข้าสู่กระบวนการของกรมบังคับคดี ก่อนส่งต่อให้กรมสรรพากรดำเนินการเรียกเก็บภาษี พร้อมยืนยันว่าที่ผ่านมากรมสรรพากรมีแนวปฏิบัติในการฟ้องคดีในเรื่องลักษณะนี้จำนวนมาก
เมื่อถามถึงกรอบเวลาและความจำเป็นในการตั้งคณะกรรมการพิเศษ นายลวรณ กล่าวว่า ต้องรอให้กรมสรรพากรมารายงานความคืบหน้าอีกครั้ง และเมื่อมีรายละเอียดชัดเจนจึงจะแถลงต่อสาธารณะ
สำหรับกรณีทรัพย์สินที่ยังอยู่ต่างประเทศ นายลวรณ ยืนยันว่า อัยการสูงสุดสามารถดำเนินการสืบทรัพย์ได้ตามกฎหมาย ขณะที่การเปรียบเทียบกับการยึดทรัพย์โครงการจำนำข้าวนั้น ปลัดกระทรวงการคลังระบุว่า รอบนี้โจทก์คือกรมสรรพากร ทำให้บริบทแตกต่างกัน



















