ครม. เห็นชอบ ‘แมวไทย’ เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ประเภท ’สัตว์เลี้ยง‘ ผลศึกษาทางประวัติศาสตร์และพันธุกรรม ’แมวไทย‘ มีเอกลักษณ์ในตัวเอง ทั้งรูปลักษณ์และลักษณะนิสัยโดดเด่น ต่างจากแมวสายพันธุ์อื่นชัดเจน ชี้ ’แมวไทย‘ อยู่คู่สังคมไทยมานาน ปรากฏหลักฐานตั้งแต่อดีต เป็นหนึ่งในสายพันธุ์แมวที่เป็นที่ยอมรับถึงความพิเศษในระดับสากล เป็นที่นิยมไปทั่วโลก ต่างชาติมีความพยายามจะนำแมวไทยพันธุ์แท้ไปจดทะเบียน-กำหนดมาตรฐานสายพันธุ์
วันที่ 18 พ.ย.68 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกำหนดให้แมวไทยเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ประเภทสัตว์เลี้ยง ตามที่คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ (กอช.) เสนอ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2507 – 2567 คณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติกำหนดเอกลักษณ์ประจำชาติไทยในมิติต่าง ๆ เช่น กำหนดให้ ‘ช้างไทย’ เป็นสัตว์ประจำชาติ , กำหนดให้ ‘ปลากัดไทย’ เป็นสัตว์น้ำประจำชาติ , กำหนดให้ ‘นาค’ เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ประเภทสัตว์ในตำนาน , กำหนดให้ ’การไหว้‘ เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ประเภทการทักทายและการแสดงความเคารพแบบไทย
โดยคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ได้ขอเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบให้ ’แมวไทย‘ เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ประเภทสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นไปตามมติ กอช. เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 ที่เห็นชอบการเสนอให้แมวไทยเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ประเภทสัตว์เลี้ยง อันเนื่องมาจากผลการศึกษาทางประวัติศาสตร์และการศึกษาทางพันธุกรรมของแมวไทย พบว่า แมวไทยเป็นสัตว์ที่มีเอกลักษณ์ในตัวเอง ทั้งรูปลักษณ์และลักษณะนิสัยที่มีความโดดเด่น มีความแตกต่างจากแมวสายพันธุ์อื่นอย่างชัดเจน แมวไทยเป็นสัตว์ที่อยู่คู่กับสังคมไทยมานาน โดยปรากฏหลักฐานการมีอยู่ของแมวไทยมาตั้งแต่ในอดีต อีกทั้งยังมีความเกี่ยวพันในด้านต่างๆ ทั้งความเชื่อ วิถีชีวิต สังคม ภูมิปัญญา และวัฒนธรรมของคนไทย
แมวไทยจัดเป็นหนึ่งในสายพันธุ์แมวที่ได้รับการยอมรับถึงความพิเศษในระดับสากล และเป็นที่นิยมไปทั่วโลกทำให้ชาวต่างชาติมีความพยายามที่จะนำแมวไทยพันธุ์แท้ไปจดทะเบียน กำหนดมาตรฐานสายพันธุ์ โดยปัจจุบันมีแมวไทยพันธุ์แท้เหลืออยู่ 5 สายพันธุ์ ได้แก่ แมวศุภลักษณ์ , แมวโคราช , แมววิเชียรมาศ , แมวโกญจา และแมวขาวมณี ภาครัฐจึงควรให้ความสำคัญกับการประกาศให้แมวไทยเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ประเภทสัตว์เลี้ยง เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ทุกภาคส่วนเห็นคุณค่า นำไปสู่การอนุรักษ์ และร่วมมือกันกำหนดมาตรฐานของแมวไทยพันธุ์แท้ในแนวทางเดียวกัน ส่งเสริมการเลี้ยงแมวไทยพันธุ์แท้ให้มากขึ้น และเพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์ความเป็นเจ้าของสายพันธุ์แมวไทย และป้องกันการนำไปจดทะเบียนโดยชาวต่างชาติ รวมทั้งยังเป็นโอกาสในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและต่อยอดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่เกี่ยวเนื่องกับแมวไทย
ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมพิจารณาแล้วเห็นชอบด้วย



















