หน้าแรกNEWSวอร์รูมสธ.เผยผู้อพยพเครียด เสี่ยงทำร้ายตัวเองเร่งส่งทีมเอ็มแคทดูแลใกล้ชิด

วอร์รูมสธ.เผยผู้อพยพเครียด เสี่ยงทำร้ายตัวเองเร่งส่งทีมเอ็มแคทดูแลใกล้ชิด

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

วอร์รูม สธ.เผย ประชาชนเสียชีวิต 1 ราย พบป่วยมีโรคประจำตัว เกิดแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก หลังตื่นหนะหนกเสียงปะทะ ส่วนการคัดกรองสุขภาพจิตผู้อพยพ แล้วกว่า 1.2 หมื่นคน พบส่วนหนึ่งเครียดสูง เสี่ยงทำร้ายตัวเองจำนวนหนึ่งทีมเอ็มแคทดูแลประกบ

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.68 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้มอบหมายให้นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงการประชุม ว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงมีเหตุปะทะหลายจุดตามแนวชายแดน ทั้งอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์และสระแก้ว โดยกองทัพภาค 2 แจ้งเตือนในการเตรียมความพร้อมที่ฝั่งกัมพูชายิงเข้ามาฝั่งไทยในหลายพื้นที่ หลายอำเภอจำเป็นต้องอพยพประชาชน

สำหรับสถานพยาบาลในกระทรวงสาธารณสุขพื้นที่ชายแดน 19 แห่ง ได้รับผลกระทบ 12 แห่งปิดบริการบางส่วน คือ ผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ส่วนรพ.ต้องปิดบริการชั่วคราว มี 7 แห่ง ได้แก่ จ.อุบลราชธานี ปิด รพ.น้ำยืน, รพ.นาจะหลวย และ รพ.น้ำขุ่น, จ.ศรีสะเกษ ปิด รพ.กันทรลักษ์ และ รพ.ภูสิงห์, จ.สุรินทร์ ปิด รพ.กาบเชิง และ รพ.พนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา

ส่วน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) ได้รับผลกระทบภาพรวม 164 แห่งใน 5 จังหวัด หลายแห่งใช้เป็นจุดพักพิง และสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือประชาชนส่วนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขจัดระบบอพยพผู้ป่วยจากรพ.ที่ถูกปิดและพื้นที่เสี่ยงออกไปนอกพื้นที่ ปัจจุบันได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 534 ราย ไปยังรพ.ใกล้เคียงและมีความพร้อมทั้งจังหวัดเดียวและข้างเคียง เพื่อให้ระบบส่งต่อทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ย้ำว่ารพ.ในสังกัดสธ.ที่อยู่รอบนอก มีความพร้อมในการเตรียมรองรับเหตุฉุกเฉินแล้ว โดยมีศักยภาพรองรับ ทั้งเตียงไอซียู เตียงผู้ป่วยสามัญ ซึ่งมีจำนวนเตียงไม่ต่ำกว่า 4,000 เตียงรองรับไว้ในพื้นที่รอบๆ ซึ่งนี่คือศักยภาพของสธ.ในการเตรียมรองรับหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น” นพ.เอกชัยกล่าว

ส่วนศูนย์พักพิง ณ ขณะนี้มี 603 แห่งใน 7 จังหวัดชายแดน สามารถรองรับประชาชนได้กว่า 3.7 แสนคน มีประชาชน 1.3 แสนคนเข้ามาแล้ว อย่างจ.ศรีสะเกษ 4 หมื่นกว่าคน จ.สุรินทร์มี 5 หมื่นกว่าคน จ.อุบลราชธานีราว 2 .5 หมื่นคน ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากภาคส่วนต่างๆ 2,500 คน คอยปฏิบัติงานดูแลประชาชนในศูนย์พักพิง 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ภายในศูนย์พักพิง มีประชาชนกลุ่มเปราะบางเกือบ 2 หมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยฟอกไต ผู้ป่วยจิตเวช ทางสธ.จัดทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่ดูแลเฉพาะทาง เช่น การฟอกไตต่อเนื่อง การดูแลผู้ป่วยติดเตียง รวมถึงการดูแลเด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์

นอกจากนี้ ยังมีทีมปฏิบัติการฉุกเฉินลงพื้นที่ด้วย เช่น ทีมกู้ชีพระดับสูง หรือ ALS (Advanced Life Support) ไม่ต่ำกว่า 115 ทีม ทีมควบคุมโรคป้องกันโรคระบาด(JIT) ทีมดูแลสุขภาพจิต MCATT ยังมีทีม SEhRT ดูแลสุขภาพอนามัย อาหารและน้ำ และจะเพิ่มจำนวนทีมขึ้นหากมีภาวะฉุกเฉินขึ้น นอกจากนี้ เราได้มีการประเมินภาวะสุขภาพจิตในพื้นที่ฉุกเฉินแล้วประมาณ 1.2 หมื่นราย พบว่ามีประชาชนเครียดสูง และเสี่ยงทำร้ายตัวเองจำนวนหนึ่งในจังหวัดใหญ่ๆ เช่น อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ซึ่งทีม MCATT ให้บริการดูแล รายไหนเสี่ยงสูงเราส่งต่อพบจิตแพทย์รายบุคคลอย่างใกล้ชิด ส่วนผู้เสียชีวิต มีตามรายงานข่าว 1 ราย คือผู้ป่วยมีโรคประจำตัว เสียชีวิตจากอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก หมดสติ จากความตื่นตระหนกจากเสียงปะทะที่เกิดขึ้น ซึ่งแพทย์ให้การช่วยเหลือเต็มที่แล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บยังไม่มีรายงานเข้ามา

โฆษก สธ. กล่าวอีกว่า ขณะนี้หลายโรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยง อย่างรพ.ศรีสะเกษ ประกาศขอรับบริจาคเลือดสำรองนั้น ก็เพื่อเตรียมความพร้อม จึงเชิญชวนประชาชนที่สะดวกเข้ารับบริจาค สามารถบริจาคในรพ.จังหวัดใกล้บ้านท่าน โดยเฉพาะจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงต่อการปะทะในขณะนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรพ.ที่ปิดบริการบางส่วน คือ ปิดบริการผู้ป่วยในกับผู้ป่วยนอก เช่น จ.สระแก้ว มี 4 โรงพยาบาลที่ปิดให้บริการผู้ป่วยใน กับผู้ป่วยนอก ได้แก่ รพ.โคกสูง รพ.ตาพระยา รพ.อรัญประเทศ และรพ.คลองหาด.

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img