กองทัพไทย วางแนวทางปฏิบัติทางทหาร 5 ข้อ ในสถานการณ์ไทย – กัมพูชา โดยต้องชอบธรรม มีมนุษยธรรม โปร่งใส สื่อสารอย่างเป็นเอกภาพ ยืนยัน ปฏิบัติการทหารของทุกเหล่าทัพมีความคืบหน้าตามขั้นตอนที่วางไว้ กำลังพลสูญเสีย 9 นาย และบาดเจ็บ 120 นาย
เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 68 พลเรือตรี สุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยความคืบหน้าของสถานการณ์ในขณะนี้ ว่าไทยยังคงปฏิบัติการทางทหาร โดยยึดถือหลักปฏิบัติ 5 ข้อ คือจะต้องปฏิบัติการด้วยความชอบธรรม (Dignity First) และได้สัดส่วน พร้อมคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม เนื่องจากประชาชนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้น โดยปฏิบัติการทางทหารของไทย จะต้องเปิดเผยและโปร่งใส เผยแพร่ข้อมูลให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของการรักษาชั้นความลับ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อปฏิบัติการในพื้นที่ และจะดำเนินการสื่อสารอย่างเป็นเอกภาพ (One Voice One Message) ให้ประชาชนรับทราบผ่านศูนย์แถลงข่าวฯ แห่งนี้
ทั้งนี้ โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ขวัญกำลังใจ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับทหารในปฏิบัติการครั้งนี้ หากประชาชน ต้องการที่จะส่งกำลังใจติชม หรือส่งข้อคิดเห็น สามารถส่งความคิดเห็นมาที่ศูนย์ดังกล่าวได้เช่นกัน
ในด้านปฏิบัติการของทุกเหล่าทัพ กองทัพบก รายงานว่า ฝ่ายกัมพูชาได้ระดมโจมตีด้วยจรวด BM-21 เครื่องยิงลูกระเบิด หรือปืนครก และโดรนพลีชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในบริเวณช่องอ่านม้าและเนิน 667 ส่วนกองทัพเรือ ดำเนินยุทธการ ‘ตราดปราบปรปักษ์’ อย่างต่อเนื่อง และพบการใช้โดรนของฝ่ายกัมพูชาเข้ามาโจมตีฝ่ายไทย ซึ่งปฏิบัติของกองทัพบกและกองทัพเรือ เป็นไปตามแผนและมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน พบว่าฝ่ายกัมพูชาใช้บ้านเรือนประชาชนและพื้นที่พลเรือนเป็นโล่กำบังเพื่อปฏิบัติการทางทหาร โดยติดตั้งอาวุธและปืนกลเพื่อใช้โจมตีทหารไทย ซึ่งผิดหลักสากล ในการใช้ประชาชนเป็นโล่กำบังปฏิบัติการทางทหาร ส่วนกองทัพอากาศ ยังคงสนับสนุนให้กองกำลังภาคพื้นดินสามารถรุดหน้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยขณะนี้ กำลังพลของไทยมีการสูญเสียเพิ่มขึ้นอีก 2 นาย ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 จำนวน 1 นายและพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 จำนวน 2 นาย ส่งผลให้มีกำลังพลสูญเสียทั้งสิ้น 9 นาย และบาดเจ็บ 120 กว่านาย
ขณะที่ผลกระทบต่อภาคประชาชนไทยในขณะนี้ มีผู้ที่อพยพมาอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวทั้งสิ้น 199,618 คน โดยมีการตั้งศูนย์พักพิง 849 จุด มีจำนวนผู้เสียชีวิต 3 ราย โรงพยาบาลได้รับผลกระทบ 19 แห่ง ซึ่งในขณะนี้ ภาคประชาชนได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากการที่ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธหนักโจมตีฝ่ายไทยอย่างไม่เลือกเป้าหมาย ซึ่งเป็นการละเมิดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจน
