หน้าแรกHighlightถ้า12ธ.ค.ยุบสภา มี“3พรรค”พร้อมมาก

ถ้า12ธ.ค.ยุบสภา มี“3พรรค”พร้อมมาก

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เทพไท” วิเคราะห์ชัดๆ ถ้า 12 ธ.ค.นี้ยุบสภา มี 3 พรรคการเมืองที่พร้อมมากสุดคือ “ภท.-ปชน.-กธ.” ส่วน “พท.-ปชป.” มีความพร้อมน้อย

เมื่อวันที่ 21 พ.ย.68 นายเทพไท เสนพงศ์ นักวิเคราะห์การเมืองอิสระ และอดีต สส.นครศรีธรรมราช แสดงความเห็นเรื่อง “12 ธ.ค.ยุบสภา ใครได้-ใครเสีย” มีรายละเอียดว่า…“เมื่อวันที่ 20 พ.ย.68 ที่โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและรมว.มหาดไทย ร่วมงานสัมมนา “PRACHACHAT OUTLOOK THAILAND 2026 : ปรับ-เปลี่ยน-ไปต่อ” โดยนายอนุทิน กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “Change for the Future” มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า “ตนก็บอกแล้วว่าวันที่ 31 ม.ค.69 ยุบสภา แต่ท่านรอถึงวันที่ 31 ม.ค.69 ไม่ไหวก็ไม่มีปัญหา ท่านจะให้ยุบสภาวันที่ 12 ธ.ค.68 วันเปิดสภา ตนก็พร้อมยุบ”

นั่นแสดงว่า นายอนุทินกำลังท้าทาย “พรรคฝ่ายค้าน” ที่ประกาศมาโดยตลอดว่า จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอนุทินแน่นอน ตามมาตรา 151 แม้ว่านายอนุทินจะต่อรองว่า ถ้ายื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 152 จะไม่ยุบสภาหนี พร้อมที่จะชี้แจง แต่เมื่อพรรคฝ่ายค้านอย่าง “พรรคเพื่อไทย” (พท.) ยืนยันกลับมาว่า จะญัตติไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 แน่ จึงทำให้นายอนุทินประกาศจะยุบสภาทันทีในวันที่เปิดสมัยประชุม คือวันที่ 12 ธ.ค.68 เพียงแต่ขอให้ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 จริง ๆ

ถ้าถามว่า ทำไมนายอนุทินกล้าท้าทาย และกล้าประกาศยุบสภาชัดเจนว่า วันที่ 12 ธ.ค.68 เป็นวันยุบสภา ถ้าดูบริบททางการเมืองแล้ว จะเห็นว่า “พรรคภูมิใจไทย” (ภท.) ไม่ได้เสียเปรียบทางการเมืองใดทั้งสิ้น ระหว่างที่เป็นรัฐบาลเดือนกว่า ๆ พรรคภูมิใจไทยได้ทำภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งครบทั้ง 3 ข้อแล้วคือ

1.ดูด สส.เข้าเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้ครบหมด เพียงพอได้พร้อมสำหรับเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีทั้งอดีต สส. มีสส.ปัจจุบัน มีบ้านใหญ่เข้าสังกัดกันอย่างครบครัน

2.มีการโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโยกย้ายระดับผู้ว่าราชการจังหวัดล็อตแรก 45 ตำแหน่ง ล็อตที่สอง 18 ตำแหน่ง ถือว่ามีความพร้อมสำหรับการเตรียมการเลือกตั้ง

3.ได้ใช้นโยบายประชานิยม “คนละครึ่งพลัส” เฟสแรกผ่านพ้นไปแล้ว ได้รับเสียงตอบรับพอสมควร และประกาศที่จะเปิดเฟส 2 ต่อไปในเดือนธ.ค.นี้ เมื่อพรรคภูมิใจไทยหรือรัฐบาลของนายอนุทิน ทำภารกิจ 3 ข้อนี้เสร็จ จะยุบสภาเข้าสู่การเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทยไม่เสียเปรียบเลย

ส่วนพรรคที่เสียเปรียบมากที่สุด น่าจะเป็น “พรรคเพื่อไทย” (พท.) กับ “พรรคประชาธิปัตย์” (ปชป.) เพราะ “พรรคเพื่อไทย” มีความพร้อมในการเข้าสู่สนามเลือกตั้งน้อยมาก วันนี้ สส.เก่ามีเลือดไหลออกจากพรรคไม่ขาดสาย ยังไม่สามารถที่จะหาแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคได้ครบทั้ง 3 คน ยังไม่มีการตกผลึกทางความคิดเกี่ยวกับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และผู้นำจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย คือนายทักษิณ ชินวัตร ยังอยู่ในเรือนจำ และเพิ่งได้รับผลกระทบจากคดีความ 2 คดี คือการที่ “อัยการสูงสุด” อุทธรณ์คดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ชำระภาษี 17,600 ล้านบาท กระทบกับพรรคเพื่อไทยอย่างปฏิเสธไม่ได้

ส่วน “พรรคประชาธิปัตย์” ที่เสียเปรียบก็ตรงที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพิ่งกลับเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ยังเตรียมพร้อมทางด้านตัวผู้สมัคร นโยบาย และกลุ่มผู้สนับสนุนอย่างเพียงพอ มีเวลาค่อนข้างจำกัด ทำให้เกิดสภาพฉุกละหุกกับพรรคประชาธิปัตย์ จึงทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสียเปรียบ

แต่ว่าสำหรับพรรคการเมืองที่ได้เปรียบ และมีความพร้อมไม่ได้ มีแค่ “พรรคภูมิใจไทย” เท่านั้น “พรรคประชาชน” ก็มีความพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งมาก่อนพรรคการเมืองใด และยิ่งจะมีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว พรรคประชาชนก็มีความพร้อมเช่นกัน เพียงแต่พรรคประชาชนติดเงื่อนไขต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จด้วย แต่สำหรับ ความพร้อมในการเลือกตั้งเกี่ยวกับบุคลากรผู้สมัคร กระแสนิยม พรรคประชาชนมีความพร้อมมากกว่าพรรคการเมืองใด ๆ

สำหรับอีกพรรคหนึ่ง คือ “พรรคกล้าธรรม” (กธ.) ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ถือว่าเป็นพรรคที่มีความพร้อม และมีเตรียมการมาดี มีการสะสมกำลังในทุกด้าน เพื่อที่จะเป็นพรรคการเมืองที่จะส่งผู้สมัครแล้วประสบความสำเร็จในสนามเลือกตั้งได้มากที่สุด ใช้โมเดลการเลือกตั้งซ่อมเขต 8 นครศรีธรรมราช จึงทำให้นักเลือกตั้งที่พลาดหวังจากพรรคการเมืองอื่น ที่อยากจะลงสมัคร เดินพาเหรดเข้าหาพรรคกล้าธรรม จึงเป็นโอกาสของพรรคกล้าธรรม พรรคการเมืองใหม่ แต่ความพร้อมไม่ได้ด้อยไปกว่าพรรคการเมืองใด

เพราะฉะนั้นการจะยุบสภาในวันที่ 12 ธ.ค.68 ซึ่งเป็นไปตามที่ผมได้วิเคราะห์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่า รัฐบาลชุดนี้จะอยู่ไม่ครบ 4 เดือนแน่นอน และมีโอกาสสูงมากที่จะยุบสภาในวันเปิดสมัยประชุม ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง พรรคการเมืองที่มีความพร้อมและได้เปรียบพรรคการเมืองอื่น มีอยู่ 3 พรรค คือพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชน และพรรคกล้าธรรม ส่วนพรรคที่ความพร้อมน้อย หรือความพร้อมไม่เต็ม 100% คือพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์”

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img