หน้าแรกHighlight‘พี่ศรี’ยื่นป.ป.ช.สอบ‘อดีตผบ.คุกกรุงเทพ’ ปม‘หญิงบริการ–สิ่งต้องห้าม’โผล่ห้องลับ

‘พี่ศรี’ยื่นป.ป.ช.สอบ‘อดีตผบ.คุกกรุงเทพ’ ปม‘หญิงบริการ–สิ่งต้องห้าม’โผล่ห้องลับ

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ศรีสุวรรณ”ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ขอไต่สวนอดีตผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และเจ้าหน้าที่รวมหลายราย หลังพบพฤติการณ์นำหญิงสาวเข้าให้บริการนักโทษจีน พร้อมพบสิ่งของต้องห้ามจำนวนมาก ชี้ผิดกฎหมายราชทัณฑ์–ผิดวินัยร้ายแรง และอาจเข้าข่ายมาตรา 157 จี้ ป.ป.ช. ชี้มูลเพื่อกันไม่ให้กลับมาดำรงตำแหน่งในระบบราชการอีก.

เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จังหวัดนนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยชี้มูลความผิดอดีตผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดกรณีอื้อฉาวพบการนำหญิงสาวเข้าไปให้บริการนักโทษชาวจีนบางรายภายในห้องลับ รวมถึงพบสิ่งของต้องห้ามจำนวนมากในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการทุจริตต่อหน้าที่และผิดวินัยร้ายแรงตามกฎหมาย ป.ป.ช.

นายศรีสุวรรณ ระบุว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังปลัดกระทรวงยุติธรรมออกคำสั่งที่ 233/2568 ให้ย้ายผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในขณะนั้น ไปปฏิบัติหน้าที่ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. 2568 เป็นต้นไป พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ขณะที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้สั่งย้ายเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมอีก 19 ราย หลังพบพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำผิด

ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณชี้ว่า เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไม่ใช่สถานบริการหรือพื้นที่อภิสิทธิ์ของใคร แต่เป็นสถานกักกันนักโทษที่มีกฎหมายควบคุมเข้มงวด การนำบุคคลภายนอกหรือสิ่งของต้องห้ามเข้าไปในเรือนจำโดยไม่ผ่านขั้นตอน ถือเป็นความผิดตามกฎหมายราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 มาตรา 71 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท และหากผู้กระทำเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ โทษจะเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่า นอกจากนี้ยังอาจเข้าข่ายความผิดวินัยข้าราชการพลเรือนร้ายแรง และความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดินยังย้ำว่า การสั่งย้ายเจ้าหน้าที่อาจไม่เพียงพอในการรับผิดชอบต่อความเสียหาย เพราะเมื่อเวลาผ่านไป เรื่องอาจเงียบหาย และเจ้าหน้าที่บางรายอาจกลับมาดำรงตำแหน่งสำคัญในระบบราชการเช่นที่ผ่านมา อาทิ กรณีเจ้าหน้าที่ที่เอื้อนักโทษไปรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจซึ่งไม่ถูกดำเนินคดีอาญาอย่างเด็ดขาด

ด้วยเหตุนี้ องค์กรรักชาติรักแผ่นดินจึงขอให้ ป.ป.ช. รับเรื่องดังกล่าวไว้ไต่สวน เพื่อชี้มูลความผิดอดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานส่งอัยการดำเนินคดีในศาลอาญา เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานที่ถูกต้องและไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในวงราชการต่อไป.

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img