“สรวงศ์ เทียนทอง” ย้ำพรรคพร้อมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ แต่ต้องเลือกจังหวะเหมาะสม ไม่หวั่นเสียงขู่ยุบสภา ยืนยันฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบ และจะเดินหน้าทำเต็มที่เพื่อประชาชน.
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.68 นายสรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่ากรรมการบริหารพรรคได้ประชุมอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อเตรียมยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย โดยยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย “พร้อมยื่นอภิปราย” แต่กำลังพิจารณาเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด
นายสรวงศ์ กล่าวว่า พรรคไม่ต้องการให้เกิดการโยงว่า การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเหตุให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือการแก้ปัญหาอุทกภัยภาคใต้ล่าช้าหรือไม่สำเร็จ พร้อมระบุว่า “เขาขู่ฟอดๆ ว่าถ้ายื่นก็จะยุบสภา ถ้าจะยุบก็ยุบ เราไม่กลัว เพราะเราทำหน้าที่ฝ่ายค้าน”
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อธิบายว่า การยื่นอภิปรายเป็นหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบ และที่ผ่านมาไม่เคยมีกรณีใดยุบสภาหนีการอภิปราย หากรัฐบาลตัดสินใจยุบจริง ย่อมสะท้อนว่า “ไม่อยากถูกตรวจสอบ” มากกว่า พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า นายกรัฐมนตรีมีเสียงสนับสนุนถึง 311 เสียง หากมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิด ก็สามารถโน้มน้าวเสียงเหล่านั้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ “ข้ออ้าง” เรื่องยุบสภา
เมื่อถามว่า มีการหารือภายในพรรคเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการยุบสภาหรือไม่ นายสรวงศ์ ระบุว่า มีการพูดคุยหลากหลายความคิดเห็น แต่ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะยื่นอภิปรายเมื่อใด เพราะต้องการให้รัฐบาลเดินหน้าบรรเทาทุกข์ให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ก่อน แต่ย้ำว่า “เป็นคนละเรื่องกับการตรวจสอบรัฐบาล”ในเมื่อมีประชาชนเสียชีวิตจำนวนมากจากการบริหารงานของรัฐ หากฝ่ายค้านไม่ยื่นอภิปราย “นั่นสิแปลก” พรรคเพื่อไทยไม่สามารถปล่อยให้รัฐบาลบริหารประเทศต่อไปได้โดยปราศจากการตรวจสอบแม้แต่วันเดียว
ส่วนเรื่องเสียงสนับสนุนจากพรรคอื่น นายสรวงศ์ กล่าวว่า พรรคประชาชนจะลงมติอย่างไรเป็นสิทธิของเขา แต่จากที่ได้รับข้อมูล พรรคประชาธิปัตย์และพรรคประชาชาติมีแนวโน้มร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย โดยเห็นว่าฝ่ายค้านต้องใช้อำนาจหน้าที่อย่างเต็มที่ ไม่ใช่หวาดหวั่นต่อกระแสเรื่องยุบสภา
กรณีที่มีกระแสว่ามี สส.บางส่วนกังวลว่า อาจกระทบกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญ นายสรวงศ์ ยืนยันว่า ภายในพรรคไม่มีความเห็นต่าง เสียงเป็นเอกภาพว่าจะเดินหน้าตรวจสอบรัฐบาลอย่างถึงที่สุด แม้จะมีข่าวว่าอาจมีการยุบสภาภายใน 1 เดือน แต่เวลาหนึ่งเดือนนั้น รัฐบาลอาจสร้างความเสียหายต่อประเทศได้อย่างใหญ่หลวง “พวกเราจึงไม่สามารถปล่อยผ่านได้”
