“ชูวิทย์” ซัด “หัวหน้าพรรคประชาชน” โยงปมปะทะชายแดนกับเรื่องสแกมเมอร์ ลั่นหยุดความเห็นต่าง เพราะ “ไม่ใช่เวลาหาเสียง” แต่เป็นเวลาที่นักการเมืองทุกคนต้องรวมกันปกป้องอธิปไตย!
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์ข้อความระบุว่า “นักการเมืองหยุดหาเสียง การเมืองมีฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน โดยปกติฝ่ายรัฐบาลทำอะไร ฝ่ายค้านต้องคอยแย้งไม่เห็นด้วย ในช่วงนี้ที่ นายกฯ อนุทิน ทิ้งการเจรจา และให้รบปะทะกับเขมร ได้ใจประชาชน แล้วก็มีฝ่ายค้านอย่างคุณเท้ง พรรคประชาชนบอกว่าต้นตอการปะทะครั้งนี้ และทุกครั้งเกิดจากฮุนเซนต้องการปกป้องสแกมเมอร์
ล่าสุดที่ ปปง. อายัดเงินหมื่นล้านของ เบน สมิธ ก๊กอาน ยิมเลียก เฉินจื้อ ที่เพิ่งเกิดขึ้นไปหยกๆ คุณเท้งยังบอกว่า ฮุนเซนเบี่ยงประเด็น พลิกสถานการณ์ที่โลกล้อมกัมพูชาเรื่องสแกมเมอร์ ให้กลายเป็นโลกมาล้อมไทยที่รังแกรุกรานประเทศที่อ่อนแอกว่า และสรุปว่า หยุดเดินอ้อม ต้องพุ่งเป้าสู่แกนกลางปัญหา พลิกวิกฤตเป็นโอกาสหยุดชนชั้นนำที่หากินบนความเดือดร้อนของประชาชน
“หยุดสร้างสงครามเพื่อกลบเกลื่อนอาชญากรรมที่ตัวเองเป็นคนก่อ โดยใช้เลือดเนื้อของทหาร และประชาชนเป็นตัวประกัน” นี่คือสิ่งนักการเมืองอย่างเท้ง พยายามจะหาเสียงเสียมากกว่า หยุดความเห็น และตั้งสมมติฐานที่แตกต่างเสียก่อน เพราะมันไม่ใช่เวลาหาเสียง หรือขัดแย้งกันเอง
ณ เวลานี้ ประเทศต้องการความสามัคคีอันแน่วแน่ ในเมื่อกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มยิงมาก่อน ภาวะผู้นำอย่างอนุทิน ขณะนี้ไม่มีทางเลือกมากนัก
นอกจากย้ำว่า “ปกป้องอธิปไตย“แม้เข้าใจได้ว่า” สงครามจะสร้างวีรษุรุษ ให้ นักการเมืองใช้ในการหาเสียง แต่มันย่อมไม่ใช่เวลาที่จะมาท้วงติง เพราะมันเป็นเวลาที่จะต้องรวมกันเป็นหนึ่ง เพื่อต่อต้านผู้รุกรานอธิปไตยเสียก่อน พรรคประชาชนในสมัยพิธาหาเสียงก็บอกประชาชนว่า
“ไม่มีการรุกรานประเทศที่อยู่ใกล้ๆ กัน มันไม่มีทะเลาะกันแล้ว บางประเทศไม่ต้องมีกองทัพแล้วด้วย” สิ่งที่พิธา พรรคก้าวไกล เคยพูดไว้ กับตอนนี้ที่ เท้ง พรรคประชาชนเพิ่งพูดไป
ผมว่าหยุดพูดก่อนดีกว่าเป็นเวลาที่นักการเมืองควร ‘ปิดปาก’ ไว้ และปล่อยให้ทหารทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย”



















