หน้าแรกHighlight‘มาร์ค’เสียดายยุบสภาก่อนแก้ปัญหาชาติ ไม่หวั่นที่รัฐบาลรักษาการยาวถึงเลือกตั้ง

‘มาร์ค’เสียดายยุบสภาก่อนแก้ปัญหาชาติ ไม่หวั่นที่รัฐบาลรักษาการยาวถึงเลือกตั้ง

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“มาร์ค”ลั่น พร้อมลงสนามเลือกตั้ง 100% เสียดาย ชิงยุบสภาก่อนแก้ปัญหา”ชายแดน-น้ำท่วม” สับสน ฝ่ายต้องการแก้ไขรธน. กลับเลือกเส้นทางให้จบลงแบบนี้ ไม่หวั่น รบ.รักษาการลากยาวเลือกตั้ง เหตุสู้รบชายแดน ชี้ อำนาจอยู่ที่กกต.

วันที่ 12 ธ.ค.68 เวลา 13.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความพร้อมในการเลือกตั้ง หลังรัฐบาลประกาศยุบสภา ว่า พรรคมีความพร้อม ไม่มีปัญหาอะไร เราเป็นพรรคการเมืองในระบบรัฐสภา การเลือกตั้งเกิดขึ้นได้เสมออยู่แล้ว ตนก็ได้กำชับผู้บริหารทุกคนมาตั้งแต่ต้น ว่าเราทำงานแข่งขันกับเวลา แต่ยอมรับว่ามีข้อจำกัดในหลายเรื่อง แม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆแต่ก็มั่นใจ ขณะนี้เราเร่งทำกันมาก ซึ่งก็มีความพร้อม และเป็นนโยบายที่ตอบโจทย์ประเทศ ในแง่ผู้สมัครก็เร่งรัดปฏิบัติตามขั้นตอน และเจตนารมณ์ของกฎหมายอย่างครบถ้วน และมีคนรุ่นใหม่ที่สนใจเข้ามาทำการเมืองแบบสุจริตจำนวนมาก ทำให้เราจำเป็นที่จะต้องกลั่นกรองและคัดเลือกให้เหมาะสมที่สุด

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ห่วงใย และได้ออกแถลงการณ์ไปตั้งแต่เมื่อคืน ซึ่งต้องยอมรับว่าปัญหาของประเทศในขณะนี้ ทั้งการสู้รบตามแนวชายแดน และการฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย หากเรามีการเมืองที่เป็นเอกภาพ มีพลังและมีอำนาจเต็ม ก็จะสามารถผ่านสถานการณ์เหล่านี้ไปได้ด้วยดี พร้อมกับยอมรับว่ารู้สึกเสียดาย อาจจะเรียกว่าการชิงไหวชิงพริบทางการเมืองสุดก็แล้วแต่ ทำให้เกิดการชะงักงัน สิ่งที่ตนอยากจะเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ต้องมุ่งมั่นในการดำเนินภารกิจ ทั้ง 2 เรื่องให้เสร็จสิ้นด้วยดี แม้ว่าจะมีการเลือกตั้ง ซึ่งก็จะมีข้อจำกัดไปโดยปริยาย ปฏิเสธไม่ได้ว่า แม้กระทั่งรัฐบาลหรือตัวนายกรัฐมนตรี ต้องมาใช้เวลากับการรณรงค์หาเสียง การที่รัฐบาลไม่ได้มีอำนาจเต็ม และต้องรักษาการจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่เข้ามา และการตัดสินใจในนโยบายใหม่ๆ ก็คงทำไม่ได้ และอาจจะมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ เพราะเมื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง จะมีเรื่องของกกต. ซึ่งอย่างน้อยที่สุด ถ้าเริ่มต้นวันนี้นายกรัฐมนตรีกับรัฐบาล จะดูแลภารกิจเหล่านี้ว่าจะไม่กระทบ หรือได้รับผลกระทบน้อยที่สุด นั่นคือสิ่งที่เราอยากจะนำเสนอในวันนี้มากกว่า ส่วนเรื่องการเลือกตั้งก็ว่าไปตามกระบวนการของพรรคการเมือง

เมื่อถามว่าจะสามารถเปิดตัวผู้สมัครได้เมื่อไหร่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด นั่นแปลว่าต้องเข้าสู่กระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากสาขา และตัวแทนจังหวัด ตามกฎหมายบังคับ ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และหลังจากได้รับฟังความคิดเห็นมาแล้วคณะกรรมการสรรหาก็จะเร่งประชุมเสนอ เสนอคณะกรรมการบริหารอนุมัติ  ส่วนจะส่งตัวผู้สมัครครบทั้ง 400 เขตหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบ แม้ว่าจะมีผู้ยื่นความจำนงมาแล้ว แต่จะต้องมีการคัดกรองอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อถามว่าคิดว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐบาลจะอาศัยช่วงนี้เป็นรัฐบาลรักษาการณ์ยาว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะไปลากยาวด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ได้ ยกเว้นเท่าที่กฏหมายให้อำนาจไว้ อย่างกรณีที่ก่อนหน้านี้ที่มีการเลื่อนเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดศรีสะเกษ ก็เป็นไปตามกฎหมาย คือกกต.เห็นแล้วว่าการจะเลือกตั้งในพื้นที่เหล่านั้นมันจัดไม่ได้ หรือไม่สามารถจัดได้ และทำให้เกิดความมั่นใจว่าประชาชนมีส่วนร่วมด้วย ก็เป็นอำนาจของกกต.ที่จะเลื่อนการเลือกตั้ง แต่จะเป็นการทั่วไปยังมองไม่เห็นว่ากฎหมายจะอนุญาตอย่างไร

เมื่อถามว่ามีคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญิวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งทั่วไปต้องเลือกตั้งพร้อมกันทั่งประเทศ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่ามีบทบัญญัติที่พยายามมาปรับ เพื่อแก้สถานการณ์ตรงนั้นอยู่ว่าในกรณีบางพื้นที่ ส่วนวิธีการจะเป็นอย่างไรก็คงเป็นหน้าที่และอำนาจของกกต.ที่จะวินิจฉัย

เมื่อถามว่าการชิงยุบสภากระทันหันมองว่าพรรคภูมิใจไทยเอาเปรียบเพื่อนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนก็ไม่อยากไปถกเถียงว่าใครเป็นคนผิดข้อตกลงหรืออะไร เพียงแต่มันน่าเสียดายตามที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ออกแถลงการณ์ไปว่าถ้าพรรคการเมืองจะพยามยามหาทางออกร่วมกันผลักดันสิ่งที่เป็นเป้าหมายร่วมกันสักนิดก็จะหลีกเลี่ยงที่จะทำให้บางปัญหาที่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศต้องได้รับผกระทบไปด้วย

“ความได้เปรียบเสียเปรียบก็ทราบกันมาอยู่แล้วตามเงื่อนไข ให้ความเป็นธรรมกับนายกฯ เพราะนายกฯพูดมาตลอดว่าถ้าขยับอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อไหร่ เขาก็จะยุบสภา เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้พรรคประชาชนก็ไม่ได้บอกว่าจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเคยถูกสอบถามก็บอกว่ารัฐบาลยังไม่มีความผิดร้ายแรง แต่พอมีปัญหาเรื่องตกลงกันไม่ได้ เรื่องสาระของรัฐธรรมนูญเลยทำให้เป็นเหตุขึ้นมา ในใจผมก็นึกว่าถ้าเราเอาเรื่องที่เป็นปัญหาใหญ่มาเป็นตัวตั้งของประเทศแล้วคุยกันเสีย เผื่อหาทางออกได้มันก็น่าจะดีกว่านี้ แต่เมื่อถึงจุดนี้ก็ต้องเดินไปตามกระบวนการ”นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่าเสียดายหรือไม่ที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นๆที่ค้างอยู่ในสภาฯไม่สามารถออกมาได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทำให้ตนมีความรู้สักสับสนนิดหน่อยว่าฝ่ายที่ต้องการผลักดันแก้ไขเพิ่มเติม หรือจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อยู่ดีๆก็เลือกเส้นทางทำให้มันจบลง แม้ว่าจะมีการเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)อนุมัติให้ทำประชามติ แต่จริงๆแล้วตรงนี้ไม่ได้ช่วยให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญง่ายขึ้น เพราะจริงๆแล้วก่อนหน้านี้คำถามที่ไปถามประชาชนจะไปถามพร้อมกับตัวร่างรัฐธรรมนูญที่เปิดโอกาสให้จัดทำใหม่ แม้มีการทำประชามติไปพร้อมกับการเลือกตั้งแล้วผ่านก็ยังต้องไปทำประชามติอีกรอบอยู่ดีในวันที่ไปแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 จริงๆแล้วก็แปลกใจอยู่ว่าแทนที่จะพยายามหาทางออกก็ไปเลือกเส้นทางที่เหมือนกับมาตั้งต้นกันใหม่

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img