การเมืองเดือด! “อภิสิทธิ์” เปิดหน้าท้าชน ปัดทุกดีลลับ-ขั้วใหม่ ย้ำจุดยืนพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจน “ไม่ร่วมรัฐบาลทุนเทา-ไม่เอาพรรคแก้ 112” ลั่นนาทีนี้ฟังเสียงประชาชนมากกว่ากูรูการเมือง พร้อมทิ้งทวนถามแรง “พรรคที่บอกไม่ร่วมทุนเทา แต่มองไปรอบตัวมีใครขาวบ้าง
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.68 เวลา 07.25 น. ที่ศาลหลักเมือง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ ยืนยันต่อการประกาศชื่อผู้ที่พรรคจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี จำนวน 3 รายชื่อว่า ทั้ง 3 คนไม่ใช่มาเป็นผู้อาสาเป็นนายกฯ ที่ต่างคนต่างมา แต่มีที่มาเหมือนกันคือ ความคิด ตั้งใจ วิสัยทัศน์ และเคยทำงานร่วมกันมา ในสถานะและโอกาสต่าง ดังนั้นมั่นใจว่าแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคประชาธิปัตย์มองอนาคตของประเทศที่อยากเห็น ตรงกัน ดังนั้นการทำงาน ของทั้ง 3 คน มีลักษณะกลมกลืน อีกทั้งได้คุยนโยบายที่ใช้รณรงค์หาเสียงมากับมือ
“เราไม่เปรียบเทียบแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคการเมืองอื่น แต่อธิบายให้เห็นว่าการคัดเลือกแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ทั้ง 3 คน อยากให้ประชาชนมั่นใจว่ากลมกลืน ยึดมั่นใจอุดมการณ์และวิสัยทัศน์เดียวกัน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ประเมินแล้วกระแสดีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จากที่ได้พบปะประชาชนต่างๆ มีกระแสตอบรับดี เชื่อว่าประชาชนต้องใช้เวลาประมาณ 40 วันที่เหลือเปรียบเทียบตัดสินใจ ซึ่งการเลือกตั้งเป็นสิ่งที่สำคัญไม่อยากให้ประเทศไทยติดล่มสภาพเศรษฐกิจสังคมที่ผ่านมา ดังนั้นอยากให้ประชาชนพิจารณาให้ถี่ถ้วน เพราะมีโอกาสสำคัญให้ประเทศพ้นจากภาวะปัญหา ประเทศเดินหน้า ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี สังคมสงบบสุข และทำให้ประเทศไทยผงาดบนสังคมโลกได้
“จากปัญหาที่พบว่าประชาชนเหนื่อยท้อกับอะไร และเขาต้องทน แต่วันนี้เป็นโอกาสหลุดพ้นสภาพนั้น พรรคประชาธิปัตย์เปิดประเด็นไทยหายจน ไม่ได้หมายถึงจนเงินเท่านั้น แต่จะทยอยเปิดนโยบายที่เป็นคำตอบแก้จน แต่ละด้านเป็นอย่าไงร ซึ่งแคนดิเดตนายกฯ 3 คนที่ประกาศชื่อนั้น มีความชัดเจนไม่ใช่ประกาศลอยๆ โดยจะระบุเป้าหมายที่ชี้วัดที่ประเมินเราได้หากมีโอากทำงาน เช่น ประกาศว่า 4 ปี เศรษฐกิจไทยโต 5% ลดหนี้สินของประชาชนจากเดิมที่มียอดหนี้ 80-90% ให้เหลือ 60% โดยทั้งหมดทำได้โดยการเมืองสุจริต หมายความว่าประเทศไทยไม่ถูกจัดอันดับในลำดับดัชนีความโปร่งใสที่107 แต่ต้องกลับมาติดอันดับในสมัยที่พวกเราทำงาน คือลำดับที่ 80” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคกล้าธรรมตอบโต้หลังประกาศไม่จับมือร่วมรัฐบาลโดยมองว่าเป็นวาทะกรรมการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าววว่า ไม่ใช่วาทะกรรม แต่เป็นความตั้งใจประกาศและทำจริง ไม่มีปัญหาอะไร และไม่ต้องการตอบโต้ ต่อความ ทั้งนี้สิ่งที่ตนประกาศเป็นการแสดงจุดยืนของการสร้างบ้านเมืองสุจริต ที่ได้รับฟังจากประชาชนจำนวนมากที่ต้องการเห็นบ้านเมืองพ้นสภาพปัญหาในปัจจุบัน
เมื่อถามว่า ล่าสุดพรรคประชาชนสนับสนุนคำประกาศของพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นมีโอกาสร่วมกันทำงานหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่ได้เป็นเรื่องเดียวกัน ทั้งนี้มีความพยายามตีความหรือยัดเยียด ทั้งที่ตนเองพูดชัดเจนที่สุดว่า ตนเป็นห่วงเรื่องการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 เนื่องจากพรรคต่างๆ ไม่มีใครพูดยกเว้นเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม ทั้งที่เป็นกฎหมายคนละฉบับ
“ผมพูดชัดว่า นโยบายที่สร้างแตกแยก จะไม่สนับสนุน และไม่ร่วมกับพรรคที่มีนโยบายสร้างความแตกแยกเช่นกัน หากรพรรคไหนมีนโยบายแบบนี้จะไม่ไปร่วม พูดตั้งแต่ต้น แต่ยังมีความพยายามยัดเยียด ตีความสิ่งที่ไม่ได้พูด ทั้งนี้ผมมองว่าบ้านเมืองเราควรตรงไปตรงมาสิ่งที่พูดนั้นเป็นข้อเท็จจริงที่ชัด วันนี้สนใจอารมณ์ประชาชนมากกว่านักวิเคราะห์หรือกูรูทางการเมืองที่พยายยามบอกว่าพูดแบบนี้ จะเป็นเกมการเมืองเป็นแบบนั้น ผมพูดว่าเราอยากได้การเมืองสุจริต เห็นพรรคการเมืองบางพรรคที่ไม่สามารถสร้างบ้านเมืองสุจริตได้จึงต้องพูด แบบตรงไปตรงมา ใครอยากตีความอะไรก็ตีไป แต่ประชาชนอยากเห็นบ้านเมืองสุจริต”หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
เมื่อถามว่า คำประกาศนั้นถูกมองว่าเป็นความพยายามจัดขั้วการเมืองใหม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “เป็นเรื่องของคนที่อยากจัด เราเดินหน้าเรื่องการเมืองสุจริต และแสดงจุดยืนชัดเจนเพราะหากไม่แสดงจุดยืนชัดเจน จะเปิดโอกาสกลับไปสู่สภาพการเมืองที่มีข้อตกลงลับ มีข้อตกลงแล้วฉีกข้อตกลง สลับไปสลับมา วันนี้ประกาศให้ชัดไม่ได้สร้างปัญหาให้กับใคร พรรคที่เราไม่ร่วมด้วย เขาก็บอกว่าไม่อยากร่วมกับเรา”
เมื่อถามว่า ต้องการร่วมมือกับพรรคการเมืองแบบไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พร้อมร่วมกับพรรคทุกพรรคที่สร้างบ้านเมืองสุจริตมีวิสัยทัศน์ชัดเจนที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโตเพื่อประโยชน์ของประชาชน
เมื่อถามว่า จะร่วมกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ทำไมต้องถามต่อ ผมพูดชัดเจนแล้ว ให้ไปถามคนอื่นที่ไม่ตอบดีกว่า เพราะผมมองว่าสิ่งที่เป็นวาทะกรรม คือ พูดว่าไม่ร่วมทุนเทา แต่หันไปหันมาไม่มีใครเป็นทุนเทา แล้วมาจากไหน”



















