บช.ปส. เปิดปฏิบัติการ “Black Mirror TKP” ส่งท้ายปี! สนธิกำลังกว่า 120 นาย บุกค้น 22 จุด 5 จังหวัด ทลายเครือข่ายฟอกเงินยาเสพติดรายใหญ่ พบพฤติกรรมจัดตั้ง 4 บริษัทขนส่งบังหน้า มีเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 20,000 ล้านบาท ล่าสุดล็อกตัว “ผู้สมัคร สส.พรรคดัง เขต 33 ฝั่งธนบุรี หลังสืบพบหลักฐานมัดรับเงินส่วยรายเดือนจากขบวนการ จ่อแถลงข่าวความคืบหน้าอย่างเป็นทางการเที่ยงวันนี้
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เปิดยุทธการ “Black Mirror TKP” ตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยจำนวน 22 จุดใน 5 จังหวัดสำคัญ ภายหลังสืบสวนพบความเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้ายาเสพติดและฟอกเงิน
ผลการตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับรวม 7 ราย และตรวจพบเส้นเงินหมุนเวียนกว่า 2 หมื่นล้านบาท เชื่อมโยงกับบริษัทขนส่ง 4 แห่งที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกเงิน หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเป็นผู้สมัคร ส.ส. เขตฝั่งธนบุรี พรรคประชาชน (ยกเว้นแขวงศิริราช) ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำและนำตัวเข้ากองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อเตรียมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ
ล่าสุดพรรคประชาชน ได้แถลงขอโทษ โดยทางนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรคประชาชน ในฐานะผู้รับผิดชอบแคมเปญเลือกตั้งกรุงเทพฯ แถลงข่าวด่วน โดยระบุว่า ได้โทรศัพท์ไปสอบถามตารางการหาเสียงช่วงปีใหม่ของนายบุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ ผู้สมัคร สส. เขตบางพลัด-บางกอกน้อย จึงได้ทราบว่าบุญฤทธิ์ถูกออกหมายจับเนื่องจากมีชื่อในบริษัทที่เชื่อมโยงกับการฟอกเงิน และต้องกราบขอโทษพี่น้องประชาชนอย่างสูง โดยเฉพาะชาวบางพลัดและบางกอกน้อย พรรคได้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้สมัครทุกคนอย่างละเอียด แต่ในกรณีของบุญฤทธิ์ ไม่มีการออกหมายเรียก ออกมาเป็นหมายจับเลย
สำหรับประวัติและแนวคิดทางการเมืองของนายบุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์
ก่อนหน้านี้ นายบุญฤทธิ์ เคยเปิดเผยประวัติและแนวคิดทางการเมืองผ่านโพสต์ในโซเชียลมีเดีย และได้แนะนำตัวต่อประชาชนในพื้นที่อย่างเป็นทางการ
นายบุญฤทธิ์ ระบุว่า ตนเริ่มต้นชีวิตจากการเป็นแรงงานรายวัน ก่อนก้าวเข้าสู่การทำงานด้านการบริหารในภาคอสังหาริมทรัพย์ ประสบการณ์ทั้งจากโลกของแรงงานและโลกของธุรกิจ ทำให้เห็นปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างชัดเจน และเชื่อว่าความเจริญจะไม่มีความหมาย หากยังมีคนบางกลุ่มถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
ตลอดระยะเวลากว่าสิบปีที่ผ่านมา นายบุญฤทธิ์ ทำงานอยู่เบื้องหลัง คอยติดตามและรับฟังปัญหาของพื้นที่บางพลัดและบางกอกน้อยมาอย่างต่อเนื่อง แม้พื้นที่จะมีการพัฒนาและมีตึกสูงเพิ่มขึ้น แต่เขาตั้งคำถามว่าความเจริญดังกล่าวได้ทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชน “อยู่ได้” และ “อยู่ดี” จริงหรือไม่
สำหรับเหตุผลในการตัดสินใจก้าวเข้าสู่สนามการเมือง นายบุญฤทธิ์ ระบุว่า ต้องการเห็นการเมืองที่ไม่ใช่เพียงคำพูดสวยหรู แต่เป็นการลงมือทำอย่างจริงจัง ยืนเคียงข้างประชาชน และเป็นปากเสียงให้กับผู้ที่เผชิญความยากลำบาก พร้อมย้ำว่า การพัฒนาที่ยั่งยืนต้องต่อยอดจากโครงสร้างและรากฐานของชุมชนเดิม ไม่ผลักคนพื้นถิ่นออกจากพื้นที่ และเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมกำหนดอนาคตร่วมกัน



















