หน้าแรกHighlight‘เท้ง’รับผิดปมผู้สมัครโดนคดีฟอกเงิน ย้ำ‘มาตรฐานการเมือง’ต้องสูงกว่าก.ม.

‘เท้ง’รับผิดปมผู้สมัครโดนคดีฟอกเงิน ย้ำ‘มาตรฐานการเมือง’ต้องสูงกว่าก.ม.

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เท้ง” น้อมรับผิด แจงเหตุสุดวิสัยผู้สมัคร กทม. บางพลัด โดนคดีฟอกเงินยาเสพติด แจงตรวจประวัติแล้วไม่เจอ เพราะหมายจับเพิ่งออกทีหลัง ย้ำแคมเปญ “มีส้มไม่มีเทา” ยังเหมือนเดิม บอก ปชน.ไม่ปกป้องพวกพ้อง ชูมาตรฐานการเมืองต้องสูงกว่ากฎหมาย

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 68 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายบุญญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ ผู้สมัคร สส.เขตบางพลัด กทม. พรรคประชาชน ถูกจับกุมข้อหาฟอกเงินคดียาเสพติด ว่า เนื้อหาหลักในรายละเอียด นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรคได้แถลงไปแล้วบางส่วน ในส่วนของพรรคประชาชนเอง กรณีนี้ถือเป็นตัวอย่างที่พอเราตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราเห็นการกระทำความผิดที่ถึงแม้ในทางกฎหมายจะยังเป็นที่สิ้นสุด แต่เราดำเนินการเลยทันที เพราะเรายึดมั่นในหลักที่ว่าผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งทางการเมือง มาตรฐานความรับผิดชอบต้องสูงกว่ามาตรฐานทางกฎหมาย คนที่เป็นนักการเมืองต้องมีความรับผิดชอบกับประชาชนมากกว่าการรับรับผิดชอบโดยอ้างเรื่องกระบวนการทางกฎหมายยังไม่ถึงสิ้นสิ้นสุดอย่างเดียวเท่านั้น

“สิ่งที่คุณพิจารณ์ได้แถลงไปเมื่อเช้านี้ต้องแสดงความเสียใจและขอแสดงความขอโทษต่อพ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกคนอีกครั้ง พวกเราเองทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ พัฒนากระบวนการคัดสรรผู้สมัครดีขึ้นแล้ว เราจะเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเหตุสุดวิสัย” นายณัฐพงษ์ กล่าว

นายณัฐพงษ์ ชี้แจงว่า มีหมายจับออกวันที่ 17 ธ.ค. และมีการจับกุมเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมแล้ว แต่หมายจับออกวันที่ 17 ธ.ค. ทำให้ไม่พบประวัติในระบบ แล้วเรามีการเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนมานานแล้ว และข้อมูลในการรับฟังความคิดเห็นประชาชนที่ส่งเข้ามาในพรรคไม่มีประเด็นที่เกี่ยวข้องตามหมายจับ เช่น การฟอกเงิน เพราะฉะนั้น ถือเป็นส่วนที่เป็นเหตุสุดวิสัย ที่เราไม่ได้เอามาเป็นข้ออ้าง แค่อยากจะกล่าวคำขอโทษ แล้วเราจะทำทุกอย่างให้ดีขึ้นต่อไป

เมื่อถามว่าจะเลือกผู้สมัครใหม่ได้หรือไม่ เพราะตามกระบวนการคือชื่อของนายบุญฤทธิ์เข้าไปอยู่ในนามประชาชนแล้ว นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ผู้สมัครแบบเขตและบัญชีรายชื่อมีลักษณะต่างกัน เราสามารถทำไพรมารี่โหวตภายในเขตและยื่นสมัครต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ทันเวลาอยู่ยืนยันว่าสามารถทำได้

เมื่อถามว่าเราสมัครไปแล้วจะสามารถถอนชื่อออกมาได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า โดยผู้สมัครเอง ต้องดูว่าขาดคุณสมบัติ น่าจะยังสามารถยื่นใบสมัครเข้าไปได้อยู่ ทางฝ่ายกฎหมายของพรรคแจ้งมาว่าสามารถยื่นได้อยู่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาตัวผู้สมัคร ซึ่งประชาชนสามารถเชื่อมั่นได้ว่าจะไม่เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีกอย่างแน่นอน

เมื่อถามว่าจะมีการตรวจสอบผู้สมัครรายอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เนื่องจากเหลือเวลาแค่ 2 วันในการรับสมัคร เพราะฉะนั้น อาจจะไม่ทัน หากจะส่งใครแทนจะต้องเป็นชื่อที่มีความมั่นใจทั้งพรรคและประชาชนมั่นใจได้ว่ามีอุดมการณ์อยู่กับพรรคประชาชน และไม่มีประวัติด่างพร้อยแน่นอน

เมื่อถามว่าหากเกิดติดขัดเรื่องข้อกฎหมายไม่สามารถส่งผู้สมัครได้จะเป็นการเสียโอกาสทางการเมืองหรือไม่ เพราะจะไม่ได้แลนด์สไลด์ กทม. 33 เขต นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ถ้ามีข้อจำกัดด้านกฎหมายในลักษณะนั้นจริง ก็เป็นสิ่งที่ตนรู้สึกเสียใจ การที่เราขาดโอกาสในการส่งผู้สมัครให้เป็นตัวเลือกของประชาชนเขต 33 ซึ่งต้องรอดูความชัดเจน

เมื่อถามว่าจะกระทบแคมเปญหลัก เช่น กาส้มล้มเทา หรือมีเราไม่มีเทา หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องขจัดปัญหาสีเทาออกจากประเทศ ตนย้ำอีกหนึ่งครั้งว่าเราไม่สามารถจะขจัดปัญหาความเทา หรือทุจริตคอรัปชั่นหมดประเทศไปภายในวันแรก แต่การที่ไม่ทนต่อปัญหาทุจริตคอรัปชั่น การไม่ปกป้องพวกพ้องตั้งแต่วันแรก สามารถทำได้ และการกระทำการแถลงของพรรค ทันทีที่เพิ่งทราบข่าวเมื่อเช้าว่ามีการจับกุมเมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่พวกเราแสดงออกให้เห็นถึงความชัดเจน ถึงแม้เป็นผู้สมัคร เป็นคนในของเรา เราตรวจสอบ ถึงแม้คดียังไม่ถึงที่สุด เราก็ไม่ปกป้อง ตนอยากจะเรียนอีกหนึ่งครั้งว่าไม่ได้กระทบกับแคมเปญมีส้มไม่มีเทาแต่อย่างใด

เมื่อถามว่าแต่การตรวจสอบครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากพรรค แต่เกิดจากการตรวจสอบของตำรวจ จะพูดว่าไม่ปกป้องได้อย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัยแบบนั้นจริงๆ

“ผมเชื่อว่าถ้าก่อนหน้านี้เราตรวจสอบแล้วพบประวัติอาชญากรรมในระบบ เช่น การออกหมายเรียกมาก่อน เราไม่ส่งอย่างแน่นอน แต่ครั้งนี้ไม่มีประวัติอาชญากรรมมาก่อนหน้าวันที่ 17 ธ.ค. รวมถึงกระบวนการรับฟังความคิดเห็นก็ไม่มีใครส่งเรื่องเข้ามาในพรรค ซึ่งจะเห็นได้ว่าก่อนหน้านี้ตอนช่วงรับสมัครมีการสลับชื่อเข้าออกทั้งแบบเขตและบัญชีรายชื่อ เพื่อแสดงให้เห็นถึงกระบวนการรับฟังความเห็นอย่างรอบด้านจากประชาชน” นายณัฐพงษ์ กล่าว

นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า ที่ผ่านมาเรารับฟังจริงๆ เราพยายามทำอย่างดีที่สุดแล้ว แต่เราไม่ได้ใช้มาเป็นข้ออ้าง เราขอโทษ มันเป็นเหตุสุดวิสัย เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่เราทำได้ก็คือทำอย่างเต็มที่ดีที่สุด ไม่ปกป้องพวกพ้องของตัวเอง ไม่พยายามที่จะกลบเกลื่อน เพื่อกลัวว่าจะทำให้ชื่อเสียงของพรรคเสียหาย ในทางกลับกันการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมารวดเร็ว ไม่ปกป้องผู้สมัครของพวกเราเองเป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ว่ามีส้มไม่มีเทาอย่างแท้จริง

เมื่อถามว่ามีผู้สมัครบางพรรคการเมืองได้หยิบเอาประเด็นนี้มาพาดพิงแล้ว นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนอยากจะฝากสื่อมวลชนและประชาชนช่วยกันตั้งคำถามแบบเดียวกันไปถึงผู้สมัครทุกพรรคทุกพื้นที่ ตนอาจจะถามเขาโดยตรงไม่ได้ เพราะเดี๋ยวจะเป็นการกล่าวหาโดยตรง และผิดกฎหมายเลือกตั้ง

“ลองตั้งคำถามว่าผู้สมัครหรือตัวแทนที่แต่ละพรรคได้นำเสนอใครเคยมีประวัติอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องมาก่อนบ้างหรือไม่ ถ้ามี ถึงแม้คดียังไม่ถึงที่สิ้นสุดจริงๆ ทำไมคุณถึงส่งต่อ แต่ผมยืนยันอีกครั้งว่ามาตรฐานการเป็นผู้แทนประชาชน ความรับผิดรับผิดชอบทางการเมืองต้องสูงกว่าความรับผิดรับผิดชอบทางกฎหมาย พรรคประชาชนก็ได้แสดงออกไปแล้วว่าแม้คดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด เราก็ถอดออกจากเป็นผู้สมัคร” นายณัฐพงษ์ กล่าว

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img