“อดีตรองอธิการบดี มธ.” เตือนรัฐบาลลุงตู่ด้วยความหวังดี อย่าให้คนที่เอาใจช่วยต้องเสื่อมศรัทธา หลังเกิดวิกฤตเลื่อนฉีดวัคซีน ถึงขั้นเจอหน้ากันจะถูกทักว่า “ถูกเลื่อนหรือเปล่า” แถมมีการใช้เส้นสายไปฉีดที่อื่นได้ก่อน จี้ให้รีบแก้ปัญหาด้วน ตีแสกหน้าทีหน่วยฉีดวัคซีนจากต้นสังกัดต่างๆ มากเกินไป
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.64 รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “ขณะนี้ประชาชนอย่างเราๆ สับสนไปหมด เรื่องการฉีดวัคซีน เนื่องเพราะมีหน่วยฉีดวัคซีน หลายหน่วย หลายหน่วยงาน มีหมอพร้อม มีกทม. “ไทยร่วมใจ” แล้วทำไมต้องมี หน่วยฉีดวัคซีนของประกันสังคม สำหรับผู้ประกันสังคมตามมาตรา 33 อีก แล้วทำไมต้องมีหน่วยฉีดวัคซีนของกระทรวงคมนาคมอีก ซึ่งแน่นอนว่า ต้องได้รับความร่วมมือจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นพิเศษ ถ้ามีเหตุผลว่า ต้องการรีบฉีดวัคซีนให้กับผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการขนส่งสาธารณะ นี่มีเหตุผล แต่กลับฉีดวัคซีนให้คนทั่วไปด้วยอีก และยังมีโควต้าสำหรับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากกระทรวงทบวงกรมต่างๆ อีก ยังมีราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และไม่แน่ใจว่านอกจากนี้ยังมีที่อื่นอีกหรือไม่
ที่แน่ๆ คือ ขณะนี้เวลาเจอหน้ากัน เราจะทักกันว่า “ถูกเลื่อนหรือเปล่า” ถูกเลื่อนยังไม่เป็นไร หลายคนถูกเลื่อน แต่พอติดต่อคนรู้จัก ใช้เส้นสายกลับไปฉีดที่อื่นได้ก่อน แสดงว่า หน่วยฉีดวัคซีนบางหน่วยมีวัคซีนไม่พอ บางหน่วยกลับมีวัคซีนเหลือ หรือไม่ก็กันไว้ให้พรรคพวก
สาเหตุนอกจากจะมาจากการที่จำนวนวัคซีนยังมีจำกัดอยู่ และน่าจะมาจากการที่มีหน่วยฉีดวัคซีนที่มีต้นสังกัดต่างกันจำนวนมากเกินไป การจัดสรรวัคซีนให้แต่ละหน่วยงาน ไม่มีทางที่จะแม่นยำ ไม่เหลือไม่ขาดแน่ๆ ที่เกิดขึ้นคือ บางหน่วยมีวัคซีนเพียงพอ บางหน่วยไม่เพียงพอ และบางหน่วยมีเหลือ แต่ไม่มีหน่วยกลางที่จะนำวัคซีนจากหน่วยที่มีเหลือไปให้หน่วยที่ขาด
รัฐบาลควรแก้ปัญหานี้ให้ได้โดยเร็ว และควรต้องแถลงข่าวอย่างด่วนด้วยว่า ความจริงเป็นอย่างไร และจะแก้ไขอย่างไร อย่าให้คนที่เอาใจช่วยต้องเสื่อมศรัทธาเลยนะครับ ด้วยความหวังดี