จับตา 6 พ.ย. นัดโหวต “ส.ส.ร.-กมธ.ยกร่าง” หลังมีกมธ.เสนอ 3 แนวทาง “นพ.ชลน่าน” “เผยลงรายมาตรา รับข้อเสนอ “ภท.” ปรับเกณฑ์ออกเสียง ก่อนถูกต่อรอง หวั่นเปิดจุดเสี่ยง สว.ไม่เห็นชอบ
วันที่ 5 พ.ย.68 ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงผลการพิจารณาของ กมธ. ซึ่งวางวาระเพื่อลงมติตัดสินต่อกระบวนการและกลไกของผู้ทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่า เดิมที่ประชุมกำหนดให้ลงมติในประเด็นการเลือกตั้งโดยตรงหรือทางอ้อมหรือไม่ และ รูปแบบขององค์กรจัดทำรัฐธรรมนูญ แต่จากการอภิปรายของ กมธ. ส่วนใหญ่มองว่าหากลงมติที่ชี้ขาดแล้วจะเท่ากับปิดกั้นการแสดงความเห็นของ กมธ. เมื่อถึงวาระพิจารณาของเนื้อหาที่ได้ลงมติไปก่อนหน้านั้น ซึ่งที่ประชุมได้ใช้พิจารณากันนาน ก่อนจะมีความเห็นว่าไม่ควรใช้ลงมติตามประเด็นที่กำหนดไว้
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ขณะที่การพิจารณาเนื้อหานั้น ขณะนี้กมธ.ได้เข้าสู่การพิจารณาเป็นรายมาตรา แล้ว โดยที่ประชุมได้รับข้อเสนอของการแก้ไข มาตรา 256 ที่พรรคภูมิใจไทยเสนอมาพิจารณาแต่ยังไม่มีข้อสรุปว่าเนื้อหาจะเป็นตามที่เสนอหรือไม่ เพราะมี กมธ.บางคนเห็นแย้งและมองว่าการปรับเรื่องสัดส่วนการลงมติของ สว.จาก 1 ใน 3 ไปเป็น 1ใน 5 นั้น อาจทำให้ สว. ไม่เห็นชอบ ซึ่งเสี่ยงกับการที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาได้ ทำให้กมธ.ต้องรอการพิจารณาไว้
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ขณะที่ในประเด็นสำคัญ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาในรายละเอียดและเตรียมลงมติตัดสินในการประชุม กมธ. ในวันที่ 6 พ.ย.นี้ คือ ประเด็นองค์กรเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งมี 3 ประเด็น คือ ประเด็นของพรรคภูมิใจไทย ที่กำหนดให้มี สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ประเด็นของพรรคประชาชน ที่เป็นร่างหลัก ซึ่งเสนอให้มี กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ และ สภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ และประเด็นที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะ กมธ. เสนอ คือ ให้มี ส.ส.ร. ที่มีจำนวน 151 คน ซึ่งเป็นไปตามรูปแบบที่พรรคเพื่อไทยเคยเสนอไว้











