“รักชนก” ยัน “พรรคประชาชน” ไม่เสียค่าโง่ หาก “นายกฯหนู” ชิงยุบสภาก่อนจนแก้รัฐธรรมนูญตามใจส้มไม่ได้ ชี้ อย่างน้อย ประชาชนไม่ต้องทนกับ “รัฐบาลที่ไร้ความสามารถ” อีก 2 ปี ไม่แปลกใจ แก้ปัญหาประเทศไม่ได้ เหตุ “อนุทิน” ยังไม่เข้าใจ ปลด “ธรรมนัส” จะเกี่ยวข้อง “สแกมเมอร์” เปิดใจ สงสาร “กล้าธรรม” หาคนทำงานลำบาก ขนาดส่งคนตอบโต้ ปชน .ยังเป็นคนแบบ “ไผ่ ลิกค์” แจงปมผู้ช่วย สส. เจ้าของบัญชีเป็นคนโอนเองไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ ปชน. ขู่ ดำเนินคดีกลับหากเข้าข่าย
วันที่ 6 พ.ย. 2568 ที่รัฐสภา น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายกรัฐมนตรี ตั้งคำถามว่าการปลดร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกี่ยวข้องอะไรกับสแกมเมอร์ ว่า ตอนนี้ทั้งประเทศเข้าใจหมดแล้ว การปลดร.อ.ธรรมนัส เกี่ยวข้องอย่างไรกับการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ เราไม่ได้บอกว่าร.อ.ธรรมนัส เป็นสแกมเมอร์แต่ทั้งประเทศเข้าใจหมดแล้ว ในเรื่องที่นายรังสิมันต์ โรม และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน อภิปรายในสภา แต่นายกฯยังไม่เข้าใจเลย
“ดิฉันจึงไม่แปลกใจเลยว่าการแก้ปัญหาเรื่องสแกมเมอร์ เรื่องฟอกเงิน หรือปัญหาอื่นในประเทศนี้ถึงแก้ไม่ได้เสียที นายกรัฐมนตรียังไม่ยอมรับความจริงว่ามีปัญหานี้”น.ส.รักชนก กล่าว
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่หากจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล หากนายกรัฐมนตรียื่นยุบสภาก่อน น.ส.รักชนก กล่าวว่า ตนไม่กังวลอะไรเกี่ยวกับนายกฯ แต่กังวลเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมากกว่า เรื่องสแกมเมอร์ก็เด่นชัดขึ้นมาเรื่อย ๆ จนตอนนี้เราเริ่มจะคลำหาตัวการใหญ่เจอแล้วเราต้องจริงจังต่อกับเรื่องนี้ ตอนนี้มีนานาชาติไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ,เกาหลีใต้ และ สิงคโปร์ เอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ประกาศยึดทรัพย์ครั้งมโหฬาร มีมาตรการอะไรก็สื่อสารให้ประชาชนรู้เรื่อง แต่นายกรัฐมนตรีไทยกลับบอกว่ามาตรการก็ทำไปบ้างแล้วแต่โปรโมทไม่เก่ง หรือไม่สื่อสาร
“คือดิฉันงง ทั้งที่เรื่องนี้ควรจะเป็นผลงานของท่าน ที่ท่านทำไปแล้วท่านช่วยบอกประชาชนหน่อยได้หรือไม่ว่าท่านทำอะไรไปบ้าง พวกเรายังไม่เห็นความคืบหน้าอะไรเกี่ยวกับสแกมเมอร์เลย เราเสนอให้ท่านประกาศในที่ประชุมอาเซียนว่าจะเป็นหัวหอกในการแก้ไขปัญหา ท่านก็ไม่ทำ แล้วทุกวันนี้ท่านทำอะไรอยู่” น.ส.รักชนก กล่าว
เมื่อถามว่าหากนายกฯชิงยุบสภาก่อน แสดงว่ารัฐบาลอุ้มคนผิดหรือไม่ น.ส.รักชนก กล่าวว่า เราไม่ได้มีหน้าที่กังวลหรือห่วงแทนนายกรัฐมนตรี ถ้ารัฐบาลยังมีข้อกังขาเกี่ยวกับเรื่องสแกมเมอร์แบบนี้ท่านห่วงตัวเองดีกว่า
เมื่อถามย้ำว่าหากชิงยุบสภาก่อน รัฐธรรมนูญก็ไม่ได้แก้พรรคประชาชนเสียค่าโง่หรือไม่ น.ส.รักชนก กล่าวว่า “ดิฉันไม่คิดว่าจะเสียค่าโง่อะไร อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีรัฐบาลที่จะอยู่ยาวต่อไปอีก 2 ปีแล้ว ถึงแม้การยุบสภาจะเกิดขึ้นภายใน 4 เดือนหรือเร็ว ๆ นี้ ก็คิดว่ามันคุ้มค่าที่สุดสำหรับประชาชนแล้ว เพราะเราไม่ต้องทนอยู่กับรัฐบาลที่ไร้ความสามารถต่อไปอีก 2 ปี”
เมื่อถามว่าทำไมช่วงนี้พรรคประชาชนตรวจสอบพรรคกล้าธรรมเยอะ ทั้งที่พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคหลัก น.ส.รักชนก กล่าวว่า เราตรวจสอบทุกเรื่องมีเพื่อน สส. หลายคนออกมาพูดหลายเรื่อง เช่น นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน ที่ออกมาพูดเรื่องแร่แรร์เอิร์ธ แต่กลายเป็นว่าเรื่องหลักที่สังคมสนใจอยู่ตอนนี้ คือเรื่องสแกมเมอร์ และรัฐบาลตอบสนองได้เชื่องช้าไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหา ตนจึงคิดว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนอยากได้คำตอบจากรัฐบาล ประกอบกับพรรคประชาชนให้ข้อมูลได้ดีจี้ถูกจุดเลยกลายเป็นว่าทุกคนร้อนรนหมดเลย
เมื่อถามว่าไม่ได้คุมกำเนิดพรรคกล้าธรรมใช่หรือไม่ น.ส.รักชนก กล่าวว่า คนที่คุมกำเนิดพรรคกล้าธรรมได้ดีที่สุดคือประชาชน เรามีหน้าที่เปิดโปงนำเสนอข้อมูล เอาหลักฐานที่มีกางให้ประชาชนได้ดู คนที่จะคุมกำเนิดหรือตัดสินได้คือประชาชน
เมื่อถามถึงกรณีที่นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร และเลขาธิการพรรคกล้าธรรม ออกมาแฉเรื่องผู้ช่วย สส. พรรคประชาชน มีมูลหรือไม่ น.ส.รักชนก กล่าวว่า ในพรรคกล้าธรรมหาคนทำงานจริงจังลำบาก ขนาดคนที่ได้รับมอบหมายให้มาตอบโต้กับพรรคประชาชน ก็ยังเป็นคนอย่างนายไผ่เลย ตนมีความเห็นใจในคุณภาพของบุคลากร ซึ่งหลายเรื่องที่เปิดออกมามีอยู่ใน กกต. อยู่แล้วกำลังสืบสวนสอบสวนถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องจริง ตัวเจ้าของบัญชีเป็นคนโอนเองไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพรรค ตอนนี้อยู่ในชั้น กกต.แล้วอยากจะแจ้งหรือเปิดอะไรก็เอาเลย คิดว่าถ้าพวกเราทำผิดจริงองค์กรอิสระก็ไม่เอาเราไว้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่าจะดำเนินคดีกลับหรือไม่ น.ส.รักชนก กล่าวว่า ถ้าอันไหนที่เข้าข้อกฎหมายเราก็คงจะพิจารณาดำเนินคดี แต่จริง ๆ พรรคประชาชนเรายึดหลักการไม่ฟ้องแก้เกี้ยว ไม่ฟ้องมั่วซั่วหรือฟ้องปิดปาก





































