หน้าแรกHighlight“โรม”กร้าว!วันนี้ต้องไม่จบแค่“ชนนพัฒฐ์” ถาม“อนุทิน”ปลด“ธรรมนัส”ชาติเสียอะไร

“โรม”กร้าว!วันนี้ต้องไม่จบแค่“ชนนพัฒฐ์” ถาม“อนุทิน”ปลด“ธรรมนัส”ชาติเสียอะไร

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

”โรม“ กร้าว! วันนี้ต้องไม่ใช่แค่ “ชนนพัฒฐ์”แต่ต้อง “ธรรมนัส” ย้อนถาม “อนุทิน” ปลดคนนี้ ประเทศเสียอะไร มอง ยึดทรัพย์ สส.สงขลา น้อยไป คาดแค่เบี่ยงประเด็น-ลดกระแส ย้ำไม่ปล่อยเรื่องนี้ หากนายกฯ ยังปล่อยจอย หวั่น ช่วงเลือกตั้งใช้ทุนเทา สุดท้ายอาจเกิดอำนาจรัฐที่มาปกป้อง

วันที่ 13 พ.ย.2568 เวลา 09.30 น.ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงวาระการประชุมว่า วาระการพิจารณาวันนี้จะมีการตรวจสอบนักการเมืองที่มีชื่อเกี่ยวโยงกับเว็บพนันและมีการเชิญ นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม มาชี้แจงด้วย ว่า หลัก ๆ เป็นเรื่องของเว็บพนัน เส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับ นายชนนพัฒฐ์ และนักการเมือง ส. และยังมีการเชื่อมโยงกับนายตำรวจ ทั้งอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและตำรวจ PCT 4 ซึ่งเราไม่ได้เชื่อทันทีให้ทุกคนได้มาชี้แจงกรรมาธิการ แต่เมื่อดำเนินการไปแล้ว ก็คงต้องส่งต่อให้กับหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ เบื้องต้นล่าสุด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ได้ไปยึดอายัดทรัพย์ นายชนนพัฒฐ์  ซึ่งต้องดูทรัพย์ที่อายัดไปมีรายการอะไรบ้าง ถ้าทรัพย์ที่เกี่ยวกับ สแกมเมอร์หรือเว็บพนัน น่าจะมีรูปแบบของคริปโต ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามีการยึดอายัดทรัพย์คริปโตบ้างหรือไม่  หรือรถหรู บ้าน ที่ดิน มีการยึดอายัดทรัพย์บ้างหรือไม่ ที่เราเห็นเป็นเพียงตัวเลขออกมาเท่านั้นเอง ซึ่ง 159 ล้านบาท น่าจะเป็นเงินหมุนเวียนในบัญชี และไม่มั่นใจว่าเป็นบัญชีทั้งหมดหรือไม่ แต่ถ้ายึดอายัดทรัพย์จริงต้องไล่ให้หมด ทำให้เกิดคำถามว่าที่ยึดอายัดมีใครบ้างและตำรวจที่ไปเกี่ยวข้องต้องถูกยึดอายัดทรัพย์ด้วยหรือไม่ เราพยายามทำให้ทุกคนได้อธิบายอย่างเต็มที่ นอกจากนายชนนพัฒฐ์แล้ว ยังมี นายสมยศ พลายด้วง สส. ภาคใต้ด้วย ซึ่งเบื้องต้นนายสมยศ น่าจะมาไม่ได้ เพราะติดภารกิจต่างประเทศ ส่วน นายชนนพัฒฐ์ ก่อนที่จะมีการยึดอายัดทรัพย์ได้รับรับทราบว่าจะมา และจะมาพร้อมกับ นายไผ่ ลิกค์ เลขาธิการพรรคกล้าธรรมด้วย แต่ก็ไม่รู้จะเปลี่ยนใจหรือไม่ แต่เบื้องต้นยังไม่ได้รับการติดต่อว่าจะไม่มา

เมื่อถามว่ากรณีของ นายชนนพัฒฐ์ กับ นายสมยศ มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ว่าเส้นเงินที่มีการโอนถึงกันเป็นเหตุผลอะไร แต่เบื้องต้นมีเส้นเงินที่ถึงกัน ก็ต้องรอให้ทุกฝ่ายชี้แจง ซึ่งเส้นเงินของ นายชนนพัฒฐ์ เยอะกว่ามาก จึงเป็นเหตุผลว่า นายชนนพัฒฐ์ เป็นเป้าหมายในการตรวจสอบ ซึ่งข้อมูลที่ตนมีเกี่ยวกับทรัพย์สินของ นายชนนพัฒฐ์ และได้เชิญกรมสรรพากรมาให้ข้อมูล ในการเสียภาษี ว่ามีการจงใจเรื่องภาษีหรือไม่

เมื่อถามว่ามีนักการเมืองอีก 3 คนที่เกี่ยวข้องนั้นเป็นใคร นายรังสิมันต์กล่าวว่า ขอให้ไล่ไปทีละส่วนดีกว่า จะได้ไม่สูญเสียโฟกัส สวนจะไปถึงใครก็ต้องรอดู ตอนนี้ยอมรับว่ามีหลายคน

“สิ่งที่ตนเป็นห่วงมากกว่านักการเมืองคือตำรวจ  ตำรวจยังไปรับเงินเว็บพนัน สแกมเมอร์แล้วใครจะมาปราบสแกมเมอร์ อันนี้ก็ชวนคิดกันดี ๆ เราต้องยอมรับว่าสังคมไทยประเทศไทยตอนนี้กำลังเผชิญหน้าสิ่งที่เรียกว่าทุนเทายึดประเทศ ถ้าเราไม่จัดการเรื่องนี้ดี ๆ เราจะพบว่าท้ายที่สุดประเทศของเราอาจจะเต็มไปด้วยทุนสีเทาแล้วก็ได้” นายรังสิมันต์ กล่าว และว่าเรื่องเส้นทางการเงิน ตนมอบหมายให้ นายปิยรัฐ จงเทพ สส. กทม.พรรคประชาชน เป็นผู้พิจารณารายละเอียด  แต่อย่างไรก็ต้องฟังคำชี้แจงของผู้ร้องด้วย ทั้ง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ และ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีต รองผบ.ตร.

เมื่อถามว่าเส้นเงินของ นายชนนพัฒฐ์ จะเชื่อมโยงไม่ถึงพรรคการเมืองหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องรอฟังว่า นายชนนพัฒฐ์ ซัดทอดหรือไม่ ซึ่งการซัดทอดในกระบวนการก็ไม่ได้หมายความว่า 100% เพราะอาจมีเหตุผลและแรงจูงใจอื่นก็ได้ และต้องดูเส้นเงิน ซึ่งตนเชื่อว่าเส้นเงินที่เห็นไม่ใช่ทั้งหมด เพราะบางบัญชีอาจจะมีการปิด แต่ก็ยังมีความเคลื่อนไหวจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นถ้าเงินที่ไหลเวียนไปยัง สส. ต่างๆก็ต้องดูว่า นายชนนพัฒฐ์อยู่ในฐานะใด ลูกมุ้ง หรือหัวหน้ามุ้ง แต่ตนเข้าใจว่าการเมืองใช้เงินสด แต่ก็ไม่แน่ เพราะถ้าใช้เงินสดเราก็ไม่ได้ข้อมูลหลักฐานเส้นทางการเงิน

เมื่อถามว่า อยากเรียกร้องให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า มันคือการแสดงความรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่เรื่องของลูกพรรคอย่างเดียว เพราะถ้าเป็นเรื่องของลูกพรรคอย่างเดียวก็คงมีกระบวนการอื่นจัดการได้ แต่วันนี้ ประเทศไทยมีภัยคุกคามคือทุนสีเทา ร.อ.ธรรมนัส คือหนึ่งในตอสำคัญที่ทำให้คนที่มองประเทศไทยข้าราชการไทยไม่เชื่อมั่น

“คุณธรรมนัสไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีอีกแล้ว จริงๆก่อนหน้านี้ก็อาจจะไม่เคยมี ฉะนั้นเมื่อมาถึงจุดนี้คุณธรรมนัสต้องพิจารณาตนเอง ผมไม่เรียกร้องให้คุณธรรมนัสแสดงสปิริตอะไร ไม่ได้สนใจว่าคุณธรรมนัสจะมีหรือไม่มี แต่ตั้งคำถามกลับไปที่นายกรัฐมนตรี ว่าท่านจะเอาแบบนี้ใช่มั้ย จะปล่อยจอยกับเรื่องนี้ใช่มั้ย ผมคิดว่าการตัดสินใจแบบนั้น เป็นการตัดสินใจที่ทำร้ายประเทศไทย การตัดสินใจของนายกฯแบบนี้เป็นการปล่อยจอย ปล่อยให้ทุนสีเทายึดประเทศได้โดยง่าย ใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ ผมถามจริง ๆ การปลดคุณธรรมนัสประเทศเสียอะไร นี่คือสิ่งที่ผมต้องตั้งคำถามกับคนที่ชื่ออนุทิน ชาญวีรกูล ธรรมนัสถูกปลดประเทศไทยเสียอะไร ในทางตรงกันข้ามธรรมนัสถูกปลดประเทศไทยได้มาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อมั่นการขจัดทุนสีเทา เป็นการส่งสัญญาณอย่างชัดเจนตามที่นายกฯ ประกาศสงครามกับทุนเทาสแกมเมอร์ ว่าต้องการจะทำสงครามกับพวกนี้ แต่ก็ยังปล่อยให้พวกนี้มีอำนาจรัฐประเทศไทยจะอยู่ได้อย่างไร  ดังนั้นสิ่งที่นายกฯ ทำอยู่ไม่ได้แสดงถึงความจริงใจต่อการแก้ปัญหานี้เลย เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องตลก แต่เราต้องซีเรียสจริงจัง ว่าจะปล่อยให้ทุนเทามีอำนาจรัฐต่อไปจริง ๆ หรือ” นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามว่า กรณีของนายชนนพัฒฐ์จะเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนยังเป็นห่วงอยู่ 2 เรื่อง หนึ่งคือการลดกระแส วันนี้ยึดอายัดทรัพย์แล้ว แต่อย่างที่ตนบอกมันน้อยไปและยังไม่เห็นรายละเอียดการยึดอายัดทรัพย์ สองเป็นการเบี่ยงประเด็น การที่นายชนนพัฒฐ์ถูกยึดอายัดทรัพย์ 90 วัน สังคมอาจจะไม่สนใจสุดท้ายนายชนนพัฒฐ์รอดหรือไม่ ดังนั้นวันนี้ต้องไม่ใช่แค่นายชนนพัฒฐ์ ถ้ารัฐบาล จริงใจในการทำเรื่องนี้ มันต้องธรรมมนัส นี่คือตัวชี้วัดที่สำคัญ เราถึงจะยอมรับได้ว่าพอจะมีความก้าวหน้า หรือการแสดงออกที่จริงใจ แต่ขณะนี้ที่ทำอยู่มีแต่คำพูด ยืนยันจะไม่ปล่อยเรื่องนี้อย่างแน่นอน หากนายอนุทินยังทำตัวแบบนี้ไปเรื่อย ๆ แบบร.อ.ธรรมนัสอยู่แบบนี้ นายอนุทินก็มีแต่เสียกับเสีย และคงจะได้รับความเสียหายมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่สุดแล้ว ต้องเอาผลประโยชน์ของประเทศมาวาง ถ้าไม่คิดถึงเรื่องผลประโยชน์ของประเทศให้มากยังแบกทุนเทาแบบนี้ไปเรื่อย ๆ นายอนุทินจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีทำไม

เมื่อถามว่า ประเมินมูลค่าทุนเทาไว้จำนวนเท่าไหร่ นายรังสิมันต์ ร้องโห และกล่าวว่า มหาศาล ไม่อั้น อันลิมิเต็ดแน่นอน แค่ปริ๊นส์ กรุ๊ป ก็มี 5 แสนล้านบาทแล้ว และนี่ตั้งกี่เครือข่าย ถ้าเงินทุนเทาใช้สำเร็จในการเลือกตั้งครั้งหน้าจริงจะเกิดอำนาจรัฐ มาปกป้องทุนสีเทา ทุนสีเทาจะซื้อธุรกิจของไทย ซื้อบริษัทพลังงาน บริษัททางยุทธศาสตร์ และมีการเปิดร้านรายย่อยแข่งกับคนไทย สุดท้ายเศรษฐกิจไทยเป็นเศรษฐกิจของการฟอกเงิน ทำให้ประชาชนได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน ยังไม่รวมถึงการท่องเที่ยวและประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางของการฟอกเงิน จะทำลายเศรษฐกิจการเงินการคลังอย่างไร ตนไม่อาจจะนึกภาพได้ ความเสียหายของประเทศไทยนับเฉพาะเงินที่ไหลเข้าไหลออก 1.15 แสนล้าน แต่ความเสียหายที่แท้จริงยังไม่มีใครประเมินได้ อาจจะมากกว่านั้นเป็นล้านล้านแล้วก็ได้.

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES
- Advertisement -spot_imgspot_img

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img