ตรังเดือด!! “สมบูรณ์” จี้กก.บห.ปชป.เปิดผลโพลคัดตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 ชี้มีข้อกังขาเพียบ หวั่นยัดไส้ 2 รอบ ขอความเป็นธรรม
วันที่ 9 ก.ย. 2565 นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร และอดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ผู้เสนอตัวลงสมัคร ส.ส. เขต 4 จ.ตรัง กล่าวถึงกรณีนายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดูแลพื้นที่ภาคใต้ เปิดเผยผลสำรวจโพลของพรรคที่ทำกับชาวบ้านในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 4 จ.ตรัง ซึ่งปรากฏว่า นายกาญจน์ ตั้งปอง สมาชิกสภาเทศบาลเมืองกันตัง ได้คะแนนนำ
โดยมีการประกาศในพื้นที่ว่า นายกาญจน์ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต4 พรรคประชาธิปัตย์ ว่า นายเดชอิศม์ได้แจ้งให้ตนทราบเรื่องนี้แล้ว โดยตนแย้งไปว่า การแข่งขันต้องมีความยุติธรรม พรรคเปรียบเสมือนกรรมการ แต่ต้องให้ความเป็นธรรมและชี้แจงรายละเอียดของผลการสำรวจในโพลนี้ด้วย โดยขอให้พรรคชี้แจงรายละเอียดของการทำโพลดังกล่าวว่า สถาบันไหนที่เป็นผู้ทำ แบบสำรวจความคิดเห็นนี้ และได้ใช้หลักวิชาการในการออกแบบหรือไม่ ลักษณะคำถามเป็นเช่นใด มีความเป็นธรรม หรือ มีการชี้นำต่อชาวบ้านหรือไม่ รวมถึงความชัดเจนของการทำโพลเพราะทราบจากเฟซบุ๊กของบางคนระบุว่าทำตั้งแต่วันที่ 22-24 ส.ค. 65 แต่อีกฝ่ายแจ้งว่า ทำโพลระหว่างวันที่ 24-28 ส.ค. 65 สำรวจสุ่มตัวอย่างกี่คน กี่ชุด
ที่สำคัญ ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลให้สามารถตรวจสอบได้ ตนจึงอยากทราบข้อเท็จจริงจากผู้รับผิดชอบในการทำโพลครั้งนี้…
“จากคำให้สัมภาษณ์ของนายเดชอิศม์ ระบุว่า ทำแบบสำรวจไป 3,000 ชุด และมาเพิ่ม 3,300 ชุด รวมเป็น 6,300 ชุด ผมจึงอยากทราบว่าทำไมต้องทำโพล 2 รอบ และในจำนวน 6,300 ชุด มีการกระจายตัวอย่างในพื้นที่ใด ในเขตเลือกตั้งที่ 4 จ.ตรังอย่างไร เพราะจากการสอบถามประชาชนในพื้นที่ พบว่าแทบจะหาคนที่ถูกสอบถามน้อยมาก เพราะ 1 ตำบล ต้องมีการกระจายเอกสารแบบสอบถาม ประมาณ 250 ตัวอย่าง ทั้งยังพบว่าในระหว่างทำการสำรวจความริยมของว่าที่ผู้สมัคร มีผู้พบการถ่ายเอกสารแบบสอบถามดังกล่าวเป็นพันๆ ชุด โดยไม่มีหมายเลขกำกับ ผมจึงไม่แน่ใจว่า เอกสารดังกล่าวเป็นแบบสำรวจเพื่อนำไปใช้ทำอะไร แต่ข้อความในเอกสารเหมือนกับใบแบบสอบถามในการสำรวจความคิดเห็นเรื่องผู้สมัคร ส.ส. เขต 4 ดังนั้น ผมจะนำเรื่องนี้ไปแจ้งต่อผู้ใหญ่ของพรรค และกรรมการบริหาร(กก.บห.)พรรค เพื่อขอทราบรายละเอียดดังกล่าว โดยขอให้พรรค ชี้แจงรายละเอียดขั้นตอนการทำโพลครั้งนี้ด้วย โดยผมมีหลักฐานจะนำไปมอบให้ กก.บห.พรรค เพราะยังเชื่อว่าพรรคมีหลักการ เป็นสถาบันการเมืองที่ซื่อสัตย์ สุจริต ในการที่จะคัดสรรคนมาเป็นผู้สมัครที่ต้องผ่านขั้นตอนต่างๆด้วยความโป่งใส ตรวจสอบได้ ไม่ใช่เอามาแต่ข้อสรุป เพื่อพี่น้องประชาชนจะได้ให้ความเชื่อมั่นต่อพรรค และเชื่อว่าพรรคต้องให้ความเป็นธรรมกับผมเช่นกัน” นายสมบูรณ์ กล่าว
