ไวรัสโควิด-19 ระบาดกินเวลาข้ามปีแล้ว ยังไม่สายที่จะกล่าวคำ “ขอบคุณ” บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกคน ที่ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ช่วยป้องกัน ปกป้องและรักษาชีวิตของคนในชาติ
ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและแพทย์หลายคน พบว่ามีความล้า ความเหนื่อยทางกาย แต่แววตา น้ำเสียงบ่งบอกถึงความภูมิใจที่ได้ใช้วิชาชีพช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
พอโควิดระบาดระลอกสอง เพราะพวกเราการ์ดเริ่มตก กลไกรัฐหลวม โดยเฉพาะฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร และยังไม่มีวัคซีนป้องกันเจ้าตัววายร้าย
สิ่งที่เห็นในสังคมเริ่มมีเสียงก่นด่ารัฐบาลหนาหูขึ้น สัมผัสได้จาก “โฆษกศบค.” นพ.ทวีศิปล์ วิษณุโยธิน แถลงยกระดับบังคับใช้มาตรการป้องกันโรค ยกระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและปราบปรามลงโทษผู้กระทำความผิดอันเป็นเหตุให้เกิดการระบาดโรค
การเตือนว่า หากพบผู้ป่วยไม่มีแอปพลิเคชัน หมอชนะ ถือว่ามีความผิด ทัวร์ลงใส่ทันที ทั้งที่แอฟพลิเคชัน “ไทยชนะ” และ “หมอชนะ” เป็นเครื่องมือเช็กอิน เช็กเอาท์ตามสถานที่ที่เราไป เพื่อประหยัดเวลาบุคลากรทางการแพทย์ทราบไทม์ไลน์ของผู้ป่วยและประชาชนกลุ่มเสี่ยง
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูล สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล มีหน้าที่พัฒนาแอปพลิเคชันและประมวลผลข้อมูลเท่านั้น ไม่เหมือนแอปพลิเคชันสายพันธ์ต่างชาติ
โดย ดร.สุพจน์ เธียวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. ตั้งเป้าผู้ใช้งาน 30 ล้านคน แถมเร่งพัฒนาระบบให้กรมควบคุมโรคสามารถติดตามผู้ที่มีความเสี่ยง เพื่อมาตรวจหาเชื้อได้ภายใน1วัน
และเตรียมเพิ่มภาษาสำหรับแรงงานเพื่อนบ้าน ลาว เมียนมาร์ กัมพูชา และประชาสัมพันธ์ข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ลงในแอปพลิเคชัน
ขณะนี้ตัวเลขคนโหลดใช้แอปฯ “หมอชนะ” เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ขอภาวนาให้ได้ตามเป้า 30 ล้านคน ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูง เพราะชีวิตคนไทยก้าวสู่ดิจิทัลไม่มากก็น้อย
เห็นได้จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่าคนไทยอายุ 6 ปีขึ้นไปมี 62.8 ล้านคน ในจำนวนนี้มีผู้เข้าถึงสมาร์ทโฟน 31.7 ล้านคน
ประเทศไทยมีหมายเลขโทรศัพท์หรือสมาร์ทโฟนเกือบ 100 ล้านหมายเลข ใช้อินเทอร์เน็ตสูงเป็นอันดับ 5 ของโลก มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กที่ 47 ล้านบัญชี 98% ของผู้ใช้งานเข้าใช้งานผ่านมือถือ ยังไม่นับรวมแพลตฟอร์มอื่นที่คนไทยใช้ ขั้นแท่นติดอันดับต้นของโลก
ราษฎรเต็มขั้น ขอเชิญชวนทุกคนในชาติโหลดแอปฯ “หมอชนะ” เพื่อรวมพลังช่วยทัพหน้าบุคลากรทางการแพทย์ บุคลากรสาธารณสุข และช่วยชาติอีกแรงอย่างแข็งขัน
โดยไม่ต้องกลัวข้อมูลส่วนบุคคลทั้ง กล้อง ประวัติการใช้งานอุปกรณ์ ตำแหน่งผู้ใช้ ไมค์ คลังรูปภาพ คลิป ไฟล์อื่นๆ ข้อมูลต่อไวไฟของเรา จะถูกล้วงตับจากรัฐ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ไปกลัวอะไร
ดีกว่าปล่อยให้แพลตฟอร์มต่างประเทศ อาทิ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ มันล่วงรู้ข้อมูลของเราทั้งหมด แม้แต่ความคิดของเรามันยังวิเคราะห์ออก เพื่อนำไปประมวลผลนำไปใช้ในมิติทางความมั่นคง มิติเศรษฐกิจ กอบโกยเอาเปรียบประเทศอื่นต่อไป
และ โฆษกศบค. ก็ออกตัว “ขออภัยและขอโทษในหลายเรื่อง กรณีหมอชนะเป็นเรื่องที่ต้องการความร่วมมือกับประชาชนมากๆ ไม่โหลดแอปฯก็ไม่มีโทษ”
นับเป็นสปิริตที่ “ราษฎรเต็มขั้น” ขอคารวะด้วยหัวใจ เพราะไม่เคยเห็นผู้ทำหน้าที่เพื่อชาติและมีบทบาทต่อสาธารณะคนไหนในประเทศนี้ กล้าหาญพูดคำว่า “ขอโทษ” ต่อคนทั้งประเทศไทย
………………………..
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย “ราษฎรเต็มขั้น”