16ปีรัฐประหาร!‘ทักษิณ’ ซัดทหารลอบกัด บ่นเสียดาย 10 ข้อ เย้ยบอกแล้วว่าทหารเหมือนหัวหน้ายามที่ใช้เฝ้าทรัพย์สิน ดูแลความปลอดภัย ไม่ใช่มาเป็น CEO หรือมาบริหารประเทศ เพราะเป็นแต่ใช้ตังค์ แต่หาตังค์ไม่เป็น
เมื่อวันที่ 19 ก.ย.65 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Thaksin Shinawatra มีรายละเอียดดังนี้…
“ครบรอบ 16 ปี ของการรัฐประหาร
19 กันยายน 2549 ขณะที่ผมเดินทางไปประชุมสหประชาชาติ ที่กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาผมถูกการรัฐประหารลับหลัง (ถูกลอบกัดโดยชายชาติทหาร) ผมเสียดายสิ่งดีๆที่ควรจะเกิดแต่วันนี้กลายเป็นความเลวร้าย
1. ผมเสียดายความเป็นประชาธิปไตยของประเทศภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนแต่วันนี้เรากลับต้องมาอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจเผด็จการ
2. ผมเสียดายความสง่างามและความไว้เนื้อเชื่อใจของประเทศไทยบนเวทีโลก
3. ผมเสียดายโอกาสประเทศในการพัฒนาไม่ว่าจะเป็น การศึกษา เทคโนโลยี การเกษตร และอุตสาหกรรม
4. ผมเสียดายโอกาสในการแก้ปัญหาความยากจนซึ่งคนไทยควรจะหายจนไปแล้ว
5. ผมเสียดายโอกาสของคนไทยที่ทุกวันนี้มองไม่เห็นอนาคตตนเอง เพียงแค่หางานทำให้ได้เพื่ออยู่ไปวันๆ ทั้งๆที่รายได้ต่ำกว่าประเทศอื่นในระดับการพัฒนาเดียวกัน
6. ผมเสียดายความเป็นศูนย์กลางการบินของสุวรรณภูมิ ทั้งๆที่ ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เราควรจะเป็นศูนย์กลางของอาเซียน
7. ผมเสียดายที่ลูกหลานต้องติดยาเสพติด ซึ่งตอนนี้ซื้อง่ายยิ่งกว่าหมากฝรั่ง
8. ผมเสียดายที่น้ำท่วมซ้ำซากเพราะไม่ได้บริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ
9. ผมเสียดายระบบราชการที่กำลังทันสมัยต้องกลับมาเป็นรัฐราชการที่ประชาชนต้องวิ่งวอนขอรับการบริการ
10. ผมเสียดายที่ประเทศต้องเป็นหนี้เพิ่มจากการบริหารงานที่ผิดพลาดจนต้องขยายเพดานการกู้และหนี้สินภาคครัวเรือนของประชาชนสูงจนจะใช้คืนได้ยาก
ผมบอกแล้วว่าทหารเหมือนหัวหน้ายามที่ใช้เฝ้าทรัพย์สิน ดูแลความปลอดภัย ไม่ใช่มาเป็น CEO หรือมาบริหารประเทศ เพราะเป็นแต่ใช้ตังค์ แต่หาตังค์ไม่เป็น
ขอให้พี่น้องคนไทยช่วยกันสนับสนุนประชาธิปไตยอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบเพื่อประเทศไทยของเราและลูกหลานจะได้มองเห็นอนาคตและเลือกทางเดินชีวิตของตนเองได้
สำหรับส่วนตัวของผมเอง 73 ปีแล้ว ก็ยังอดห่วงอนาคตประเทศและลูกหลาน ไม่นานคงจะได้กลับไปเลี้ยงหลานและแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ให้กับสังคมไทยเท่าที่กำลังกายและกำลังสมองยังดีอยู่
ด้วยเคารพรักและห่วงใย
ทักษิณ ชินวัตร
19 กันยายน 2565”