“สุทิน” เผยฝ่ายค้านเตรียมกำหนดท่าที หลังศาลรธน.ตัดสินปมนายกฯ 8 ปี ซัด “บิ๊กตู่” ผู้นำเหนียวเก้าอี้ ยอมเสียสละก่อน 23 ส.ค.ประเทศเดินมาไม่ถึงวันนี้ ชี้หาหากรอดเกิดวิกฤตการเมืองแน่ แนะกกต.แก้กฎเหล็กคุมเข้ม 180 วันก่อนเลือกตั้งได้ก็ควรทำ
วันที่ 30 ก.ย. 65 ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการนัดหมายของฝ่ายค้านรอลุ้นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินกรณีนายกฯ 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า ไม่ได้มีการนัดหมายอะไรใครมาสะดวกก็มาพบกันในเวลา 14.00 น.ที่ห้องผู้นำฝ่ายค้าน และหลังคำวินิจฉัยจะกำหนดท่าทีกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป ไม่ว่าจะออกมาแนวทางใด เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะอธิบายเพื่อให้สิ้นกระแสความ หากอธิบายได้ดีมีเหตุผล เราก็คงไม่มีอะไร แต่ถ้ายังมีข้อที่ยังคาใจสังคม ก็จะพิจารณาในเชิงวิชาการเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานในอนาคต ทั้งนี้การแสดงความคิดเห็นจะอยู่ในกรอบที่เรายอมรับและไม่ละเมิดต่อศาล
นายสุทิน กล่าวว่า ความจริงเรื่องนี้ไม่ใช่ธุระที่ส.ส.จะต้องมาเขียนคำร้องแล้วยื่นศาลรัฐธรรมนูญ และไม่ใช่ธุระที่ประชาชนจะต้องมาตรึงเครียดจนถึงจะต้องมาพูดเรื่องรัฐประหาร หรืออาจจะไม่มีเลือกตั้ง ความจริงเรื่องนี้ตนเตือนมาตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นเรื่องของพล.อ.ประยุทธ์คนเดียวเท่านั้นที่จะเสียสละ ถ้าตัดสินใจตั้งแต่ก่อนวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา บ้านเมืองก็จะไม่ต้องเดินมาถึงจุดนี้ และยิ่งเกิดอะไรขึ้นจากวิกฤตครั้งนี้คนที่จะต้องรับผิดชอบคือพล.อ.ประยุทธ์ที่นำประเทศมาถึงจุดนี้โดยไม่จำเป็น ไม่ควรทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก เสียสละคนเดียวจบ นับเลข 1 ถึง 8 คนเดียวจบ นี่คือกรรมของคนไทยที่ผู้นำประเทศเหนียวเก้าอี้มากเกินไป จึงทำให้ประเทศชาติไปสู่ปัญหา ถ้าลดการติดยึดบ้างบ้านเมืองก็ไม่วิกฤต ประเทศมาไม่ถึงวันนี้
เมื่อถามว่า หากผลออกมาพล.อ.ประยุทธ์ได้อยู่ต่อ มองว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะเป็นอย่างไร เพราะขณะนี้มีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองออกมาเคลื่อนไหวหลายกลุ่ม นายสุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าห่วง ถ้าพล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อ ปัญหาวิกฤตทางการเมืองจะเกิดขึ้น เพราะข้อกังวลที่เป็นเจตนารมณ์ที่เขียนไว้รัฐธรรมนูญมาตรา 158 คือถ้าอยู่นานเกินไป ก็จะเกิดปัญหาวิกฤตทางการเมือง วันนี้หากพล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อตามข้อเท็จจริงก็จะเกิน 8 ปี และสิ่งที่คณะร่างรัฐธรรมนูญกังวลว่าจะเกิดปัญหา ตนก็เชื่อว่ามีความเป็นจริงเกิดขึ้น ซึ่งตรงนี้อยู่ที่ฝ่ายต่างๆ ที่จะต้องหาทางที่จะไม่ให้เกิดความรุนแรงและบานปลาย
นายสุทิน ยังกล่าวถึงกฎเหล็กของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ออกมาใช้ในช่วง 180 วันก่อนเลือกตั้งว่า กังวลว่าจะปฏิบัติได้ยาก ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงและชีวิตจริง สิ่งที่เป็นห่วงกว่านั้นคือ จะเปิดช่องให้มีการกลั่นแกล้งกันทางการเมือง เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกัน ฉะนั้น ตนคิดว่าทางใดที่กกต. หรือทางผู้ที่เกี่ยวข้องจะหาทางแก้ไข หรือปิดช่องทางในการที่จะเอาช่องทางเหล่านี้มาใช้ในทางที่ผิดก็ควรจะทำ ซึ่งตนเห็นว่าประกาศของกกต.ในวันนี้ต้องคิดให้รอบคอบและให้ปฏิบัติได้
“ผมเห็นว่าประกาศของกกต.สามารถแก้ไขได้ เพราะวันนี้ยังมองกันคนละแบบอยู่ แม้กระทั่งกกต.จังหวัดและกกต.กลาง ส่วนกฎหมายการเลือกตั้งฉบับเก่าและรัฐธรรมนูญก็น่าจะมีช่อง แต่จะแก้ได้ทันหรือไม่ในสภาวะเช่นนี้ ผมตนหนักใจว่าน่าจะแก้ยากและแก้ไม่ทันเพราะถึงเวลาใช้แล้ว อย่างไรก็ตาม ทางพรรค พท.จะจัดสัมมนาส.ส.เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎเหล็กกกต. ในวันที่ 5 ตุลาคม เพราะส.ส.อาจจะตีความกันไปคนละทาง อย่าว่าแต่พรรค พท.เลย ส.ส.แต่ละพรรคก็ตีความไปคนละทางเช่นกัน”นายสุทิน กล่าว
