ไทย-อิตาลีย้ำความร่วมมือรอบด้าน-ส่งเสริมเศรษฐกิจ นายกฯขอบคุณทูตอิตาลีผุดโครงการทำหนังสั้นโปรโมตไทย ด้านอิตาลีเสียใจต่อโศกนาฏกรรมที่หนองบัวลำภู
เมื่อวันที่ 7 ต.ค. เวลา 09.30 น. ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายโลเรนโซ กาลันตี เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย เข้าอำลาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เนื่องในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยกับอิตาลีมีความสัมพันธ์ทางการทูตและความร่วมมือที่แน่นแฟ้นในทุกมิติ โดยในปีนี้เป็นวาระครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 154 ปี รวมทั้งยินดีที่อิตาลีจัดการเลือกตั้งทั่วไปได้อย่างราบรื่น และได้ฝากความปรารถนาดีไปยัง นางจอร์เจีย เมโลนี (Giorgia Meloni) ที่คาดว่าจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอิตาลี พร้อมอวยพรให้เอกอัครราชทูตอิตาลีฯ ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ใหม่ เชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์ขณะดำรงตำแหน่งในไทยจะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสัมพันธไมตรีระหว่างไทยและอิตาลี และไทยกับสหภาพยุโรปให้ก้าวหน้ามากขึ้น ซึ่งไทยพร้อมให้ความร่วมมือระหว่างกันต่อไป
ขณะที่เอกอัครราชทูตอิตาลีฯ กล่าวว่า อิตาลีเป็นพันธมิตรที่ดีกับไทย มีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเสมอมา และขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างมากในนามของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลอิตาลีต่อโศกนาฏกรรมในจ.หนองบัวลำภู โดยอิตาลีพร้อมเป็นกำลังใจให้ประเทศไทยผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ ขณะเดียวกัน เอกอัครราชทูตอิตาลีฯ ยืนยันว่าจะต่อยอดความร่วมมือระหว่างกันในทุกมิติ และยินดีจะขยายความร่วมมือเพื่อพัฒนาด้านต่าง ๆ ที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านความมั่นคง ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านการแพทย์ รวมทั้งพร้อมสนับสนุนไทยในการเป็นเจ้าภาพการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิค (เอเปค) 2022 โดยเชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จและจะเป็นประโยชน์ร่วมกันกับทุกภูมิภาคในการพัฒนาเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน
จากนั้น ทั้ง 2 ฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับประเด็นความร่วมมือต่างๆที่สำคัญ โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมเอกอัครราชทูตอิตาลีฯ ที่ร่วมกับหน่วยงานของไทยจัดทำโครงการภาพยนตร์สารคดีสั้นเรื่อง “Me and the Magic Door” เพื่อเผยแพร่เกี่ยวกับมรดกสถาปัตยกรรมต่างๆ ในกรุงเทพฯ ที่ได้รับการออกแบบโดยศิลปินชาวอิตาลีในอดีต อาทิ พระที่นั่งอนันตสมาคม บ้านนรสิงห์ที่ปัจจุบันคือที่ตั้งทำเนียบรัฐบาล นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายยินดีที่เกิดความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมระหว่างสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือจิสด้า กับ Italian Space Agency ในด้านอวกาศและดาวเทียม ตลอดจนความร่วมมือระหว่างศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ของไทยกับหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ของอิตาลีในด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ อีกทั้ง นายกฯ ขอบคุณที่เอกอัครราชทูตอิตาลีฯผลักดันโครงการอบรมด้านอาชญากรรมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงทุนการศึกษาแก่นักเรียนไทยเพื่อไปศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่อิตาลี ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องว่าควรสานต่อความร่วมมือด้านการศึกษา แลกเปลี่ยนอบรม และความร่วมมือระดับประชาชน เพื่อเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างกันในอนาคต
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตอิตาลีฯ ยินดีที่จะมีการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน – สหภาพยุโรป ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ในปลายปีนี้ และถือเป็นโอกาสครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซีย -สหภาพยุโรป ขณะที่นายกฯกล่าวยืนยันว่าไทยพร้อมร่วมมือกับอิตาลีในการบรรลุผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมของการประชุมฯและ เชื่อมั่นว่าจะเป็นเวทีส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจภายในภูมิภาคและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนระหว่างกันต่อไป พร้อมยินดีที่การเจรจาร่างกรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้านไทย – อียู (PCA) ประสบความสำเร็จ