วันอาทิตย์, พฤษภาคม 11, 2025
หน้าแรกHighlight“บิ๊กป้อม”ผลักดันส่งออก“น้ำมันปาล์ม” ชู13มาตรการรับฤดูฝนป้องอุทกภัยใต้
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“บิ๊กป้อม”ผลักดันส่งออก“น้ำมันปาล์ม” ชู13มาตรการรับฤดูฝนป้องอุทกภัยใต้

ประวิตร” ลงสุราษฎร์ฯ ลุยดันราคาน้ำมันปาล์มพร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานรับมือสถานการณ์น้ำ ตาม 13 มาตรการ เพื่อป้องกันผลกระทบในภาคใต้

เมื่อวันที่ 17 ต.ค.65 ที่ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ โดยมีนายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นำเสนอแผนงานด้านทรัพยากรน้ำและการคาดการณ์สถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร นำเสนอสถานการณ์ปาล์มน้ำมันในประเทศ พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการการบริหารจัดการปาล์มน้ำมัน พบปะประชาชนและเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน หลังจากนั้น ลงพื้นที่ติดตามโครงการระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองสุราษฎร์ธานี และติดตามโครงการแก้มลิงสระบัว (อ่างเก็บน้ำทุ่งกระจูด) ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี

โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวมอบหมายให้ทุกหน่วยงาน บูรณาการวางแผนและเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการป้องกันและลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากพื้นที่ภาคใต้กำลังเข้าสู่ฤดูฝน โดยให้จังหวัด กรมชลประทาน ปภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจจุดที่เสี่ยงน้ำท่วม สิ่งกีดขวางทางน้ำ และรายงานต่อคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดและคณะกรรมการลุ่มน้ำ เพื่อกำหนดมาตรการรองรับต่อไป และมอบหมายให้กรมชลประทาน เร่งสำรวจและซ่อมแซมบำรุงรักษาระบบระบายน้ำ อาคารบังคับน้ำและสถานีสูบน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และวางแผนเก็บกักน้ำไว้สำหรับฤดูแล้งหน้าด้วย ให้ สทนช. เร่งรัดขับเคลื่อนแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม-น้ำแล้ง เพื่อแก้ไขปัญหาด้านน้ำในระดับพื้นที่ ทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤติ และให้ทุกหน่วยงาน ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนรับทราบเป็นการล่วงหน้าอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้ทุกภาคส่วน บูรณาการพัฒนาปาล์มน้ำมันของ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อมุ่งสู่ Oil Palm City ส่งเสริมการผลิตปาล์มน้ำมันยั่งยืน และมีการซื้อขายปาล์มน้ำมันที่เป็นธรรมให้เกษตรกร 

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า การลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ในวันนี้ เพื่อต้องการมาเยี่ยมพี่น้องชาวสวนปาล์ม มารับฟังปัญหาด้วยตัวเองในฐานะประธานกรรมการ กนป. ที่ผ่านมา รัฐบาลมีผลงานอย่างต่อเนื่อง มีนโยบายและมาตรการต่างๆ ให้หน่วยงานดำเนินการจนสำเร็จเป็นรูปธรรม เช่น การนำน้ำมันปาล์มดิบในสต๊อกส่วนเกิน ราวๆ 3.6 แสนตันไปผลิตไฟฟ้า การเพิ่มสัดส่วนผสมไบโอดีเซล ให้ B10 เป็น น้ำมันดีเซลฐาน ในปี 2562 โดยใช้เงินกองทุนอุดหนุนแม้ว่า จากสถานการณ์ สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้น้ำมันมีราคาแพง จึงทำให้ต้องลดสัดส่วนเป็น B5 ชั่วคราว อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. จนถึงสิ้นเดือน ธ.ค.นี้ ได้เพิ่มเป็น B7 และขยายเวลาให้ใช้เงินกองทุนอุดหนุน ต่อไปอีก 2 ปี และได้ผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบให้ได้ 2 ล้านตันในช่วง 4 ปีนี้ พร้อมให้ดำเนินการติดมิเตอร์วัดน้ำมันปาล์มดิบให้แล้วเสร็จโดยเร็ว 

พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า จากสถิติข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เห็นว่า เดิมในปี 2562 ราคาปาล์มทะลายเฉลี่ยกิโลกรัมละ 3 บาทกว่า ปี 2564 เฉลี่ย กิโลกรัมละ 6 บาทกว่า และ 9 เดือน ที่ผ่านมา ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 8.50 บาท ซึ่งคาดว่า ทั้งปี 2565 นี้ ราคาปาล์มทะลายเฉลี่ยจะอยู่ราวๆ 7.50-8.00 บาท และเมื่อประมาณการตัวเลขทางเศรษฐกิจแล้วพบว่า ภาคใต้ ที่มีการปลูกปาล์ม จะมีเศรษฐกิจดีและเงินสะพัดอย่างต่อเนื่อง เมื่อปี 2562 มูลค่าทางเศรษฐกิจ เพียง 5 หมื่นล้านบาท ปี 2564 ขยับขึ้นเป็นหลักแสนล้านบาท คาดว่าปีนี้ เงินจะสะพัดถึง 1.5 แสนล้านบาท

- Advertisment -spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img