“เสรีรวมไทย-ประชาชาติ” จัดประชุมใหญ่เตรียมพร้อมเลือกตั้ง 24 ต.ค.นี้ เปิดนโยบายยุทธศาสตร์เลือกตั้ง ด้าน “วันนอร์” พร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคประชาชาติ
เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 65 นพ.เรวัต วิศรุตเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เปิดเผยว่าวันที่ 24 ต.ค.นี้ พรรคจัดประชุมใหญ่สามัญเพื่อเตรียมพร้อมในการเลือกตั้ง เบื้องต้นจะมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคแทนตำแหน่งที่ว่าง 2 ตำแหน่ง และนำเสนอนโยบายยุทธศาสตร์ที่จะใช้ในการสู้ศึกเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ดีส่วนตัวมีประเด็นทางด้านนโยบายสาธารณสุข ที่จะนำเสนอเป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง คือ การให้มีศูนย์ดูแล ฟื้นฟู ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง เพิ่มการตรวจคัดกรองบุคคลที่มีความเสี่ยงเป็นเบาหวาน ความดัน ซึ่งโรคดังกล่าวคือต้นเหตุที่จะทำไปสู่โรคร้ายแรงในอนาคตได้ นอกจากนั้นในประเด็นนโยบายที่ขับเคลื่อนผ่านประเด็นทางการเมืองปัจจุบันที่มีผลกระทบต่อประชาชนจะเสนอให้ทบทวน โดยเฉพาะเรื่องกัญชา ตนสนับสนุนให้ใช้กัญชาเพื่อทางการแพทย์ เพื่อรักษาโรคที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยยา แต่ไม่สนับสนุนให้ใช้เพื่อการทั่วไปเพราะกัญชาก่อให้เกิดโทษทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง เช่น หัวใจวาย ไตพัง
พรรคเสรีรวมไทยจะไม่ไปควบรวมกับพรรคการเมืองใด แต่ไม่ปิดกั้นพรรคการเมืองอื่นที่จะเข้ามาทำงานร่วมกัน โดยที่ผ่านมามีหลายพรรคติดต่อเข้ามา อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เคยหารือถึงการไปรวมกับพรรคการเมืองอื่น ซึ่งตนตอบไปว่าพรรคที่มาคุยยังเป็นพรรคตั้งใหม่ เหมือนคนไม่มีบ้าน ไม่ผ่านการเลือกตั้ง ไม่มีส.ส.ในสภาฯ แม้เขาจะเป็นนักการเมืองที่มีคนรู้จัก ดังนั้นโดยตรรกะแล้วจะไปรวมทำไม
“พรรคเสรีรวมไทยไม่ยุบพรรคแน่นอน รวมถึงเอาพรรคไปรวมกับพรรคอื่นด้วย แต่หากใครจะมาร่วมงานกับพรรค โดยยึดพรรคเสรีรวมไทยเป็นหลักสามารถทำได้ และพรรคเสรีรวมไทยไม่ปิดกั้น อีกทั้งไม่มีเงื่อนไขใดที่จะทำงานร่วมกันไม่ได้” นพ.เรวัต กล่าว
ทางด้าน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งที่จะมาถึง ว่าพรรคตั้งเป้าที่จะส่งส.ส.ในภาคใต้ ให้ได้ทั้งสิ้น 25 เขต โดยขณะนี้เปิดตัวไปแล้ว 15 เขต ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการคัดสรรผู้ที่จะลงสมัครรรับเลือกตั้ง อย่างไรก็ดีในเป้าหมายของการเลือกตั้งที่จะมาถึงพรรคประชาชาติยังคงเน้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป้นหลัก
สำหรับยุทธศาตร์ของพรรคนั้น ล่าสุดคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์ได้หารือร่วมกันและได้เน้นย้ำถึงการหาเสียงที่คำนึงถึงกติกาที่คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดในระยะ 180 วันก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ส่วนกติกาเลือกตั้งที่จะใช้ในการเลือกตั้ง ซึ่งยังไม่ชัดเจน เพราะรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเนื้อหาของร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. รวมถึงร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองนั้น พรรคไม่กังวลและยังพร้อมที่จะลงเลือกตั้ง ส่วนตนนั้นในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็นผู้สมัครส.ส.บัยชีรายชื่อลำดับที่หนึ่งและจะรับการเสนอชื่อจากพรรคการเมืองให้เป็นบัญชีนายกฯที่พรรคจะสนับสนุน.